วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

ปรับเปลี่ยนอาหารสำหรับสุนัขให้ถูกต้องตามวัย

คุณเคยสั่ง สเต็คขนาด 16 ออนซ์(ชิ้นใหญ่พิเศษ) ให้กับคนอายุสักแปดสิบปีที่ไม่มีฟันสักซี่อยู่ในปากกินไหม? หรือเคยให้ ลูกชายวัยรุ่นกินข้าวต้มบดเละๆสำหรับเด็กบ้างหรือไม่? แม้ว่าจะไม่เคยแต่มันก็เป็นไปได้ที่คุณอาจจะทำ เรื่องคล้ายๆกันนี้ เวลาคุณเตรียมอาหารให้สุนัขของคุณ
              ด็อกเตอร์ จิม โซโคโลวสกี้ ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนอาหารสุนัขไว้ดังนี้

              “สุนัข นั้นเหมือนคน ซึ่งมีความต้องการอาหารที่แตกต่างกันตามช่วงอายุ แต่แย่หน่อยที่แต่ละช่วงชีวิตของสุนัขนั้น เราเห็นและแยกแยะได้ไม่ชัดเจนนัก” เขากล่าวต่อ “แต่เพราะว่าสุนัขนั้นจะบอกเราก็ไม่ได้ว่าเค้าอยากกินอะไรและเมื่อไหร่ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะต้องรับผิดชอบในตัวเค้าในฐานะที่เป็น เจ้าของสุนัข ที่จะต้องรู้จักเรียนรู้และทำความรู้จัก กับช่วงชีวิตของเค้า หรือบรรดาเหตุการณ์ที่จะต้องสนองตอบเค้าด้วยอาหารที่ให้เค้าด้วยความถูกต้อง และครบถ้วนสารอาหาร”
              ช่วงชีวิตของสุนัขที่ถือว่ามีความ สำคัญและคุณจะต้องดูแลเอาใจใส่เขาอย่างใกล้ชิดให้เค้าได้รับสารอาหารอย่าง ถูกต้อง และเพียงพอ ได้แก่ ช่วงอายุมาก ช่วงตั้งครรภ์ ระยะพักฟื้น (หลังจากที่พ้นจากอาการบาดเจ็บ หรือการผ่าตัด หรือการป่วย) การป่วยเรื้อรัง ภาวะน้ำหนักเกิน และระดับการออกกำลังกายหรือการทำกิจกรรมระหว่างวันของสุนัข “ผู้ที่เป็นเจ้าของสุนัขจะต้องจำให้ขึ้นใจเลย ว่าสุนัขแต่ละตัวนั้นไม่เหมือนกัน” ด็อกเตอร์ โซโคโลวสกี้เพิ่มเติม เมื่อคุณต้องการเปลี่ยนอาหารให้กับเขา คุณต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปให้ร่างกายเขาคุ้นเคย

              ลูก สุนัขนั้นต้องการสารอาหารพื้นฐานเช่นเดียวกันกับสุนัขโต แตกต่างกันเพียงอาหารสำหรับลูกสุนัขนั้น จะต้องย่อยง่าย ให้พลังงานสูง และมีปริมาณโปรตีนสูง สำหรับการพัฒนาการทางร่างกาย และต้องมีสัดส่วนของ แคลเซี่ยมกับฟอสฟอรัสที่พอเหมาะด้วย
              และเนื่องจากว่า กระเพาะอาหารของลูกสุนัขนั้นมีขนาดเล็ก เขาควรได้รับอาหารเป็นมื้อเล็กๆ และแบ่งเป็นหลายๆ มื้อเพื่อให้เขาได้รับสารอาหารเพียงพอกับที่ร่างกายต้องการด้วย ลูกสุนัขที่กำลังโตจะต้องการพลังงานสำหรับการเจริญเติบโต เมื่อเทียบกับสุนัขโตแล้วในน้ำหนักขนาดเดียวกันประมาณสองถึงสามเท่า

              ใน สุนัขขนาดเล็กนั้นจะมีน้ำหนักเทียบเท่าสุนัขโตเมื่ออายุได้ประมาณ 6-9 เดือน ในขณะที่สุนัขพันธุ์ใหญ่นั้น จะต้องใช้เวลาประมาณ 18-24 เดือน จึงจะมีน้ำหนักได้ตามเกณฑ์ของสุนัขโต ในท้องตลาดตอนนี้มีอาหารเฉพาะ สำหรับสุนัขพันธุ์เล็กแล้ว (เป็นอาหารสำหรับสุนัขพันธุ์เล็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป) เพื่อเขาได้เติบโตไปอย่างที่ควรเป็น สุนัขแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีความต้องการไม่เหมือนกัน

              โดย ทั่วไปแล้วเมื่อสุนัขนันมีอายุได้ 7 หรือ 8 ปี เค้าจะเชื่องช้าลง มีกิจกรรมน้อยลงและต้องการอาหารน้อยลง แม้ว่าจะขึ้นอยู่กับสุนัขแต่ละพันธุ์ก็ตาม ควรเริ่มหรับให้เขากินอาหารเป็นมื้อเล็กลงแต่บ่อยครั้งขึ้นแทนที่จะให้กิน เป็น มื้อเดียวใหญ่ๆ เพื่อจะได้ไม่เป็นการบั่นทอนระบบการย่อยอาหารของเค้า คุณสามาถเลือกให้อาหารสำหรับสุนัขที่มีอายุมาก โดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นทางเลือกที่ง่ายและมั่นใจได้ว่าเขาได้รับสารอาหารครบถ้วนและสมดุล เหมาะตามความต้องการของเขา

              สุนัข ที่ตั้งครรภ์ก็ต้องการอาหารมากเป็นพิเศษในช่วง 4 สัปดาห์สุดท้ายของการตั้งครรภ์ด้วย ดังนั้นกฏทั่วไป สำหรับการให้อาหารสุนัขที่ตั้งครรภ์ก็คือคั้งแต่สัปดาห์ที่ 6 ของการตั้งครรภ์เป็นต้นไป ให้เพิ่มปริมาณอาหารเขึ้นทุกๆสัปดาห์ ในปริมาณสัปดาห์ละ 15% จากของเดิม ส่วนในช่วงเวลาหลังคลอดลูกสุนัข แม่สุนัขจะต้องให้นมและดูแลลูกๆเป็นพิเศษ จึงต้องการอาหารในปริมาณที่เพิ่มจากเดิมถึง 4 เท่า และนอกจากนี้แม่สุนัขยังต้องการน้ำดื่มที่สะอาดและใหม่ ในปริมาณมากเพียงพอด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น