วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554

สุนัขกับเพื่อนสัตว์ทั้งหลาย

สุนัขของ เรามักจะคิดเสมอว่าตัวเองนั้นเป็นเอกในบ้าน แต่เค้าอาจไม่ใช่สัตว์เลี้ยงภายในบ้านตัวเดียวของคุณเท่านั้น ต่อไปนี้จะเป็นข้อมูลที่จะพอช่วยให้เจ้าสุนัขของคุณเข้ากันกับเพื่อนตัว อื่นๆได้
สุนัขกับสุนัข
              สุนัข อีกตัวหนึ่งนับเป็นเพื่อนที่เหมาะสมสำหรับสุนัขมากที่สุด สุนัขสองตัวจะอยู่เป็นเพื่อนกันได้และคุณสามารถ ปล่อยให้พวกเค้าอยู่กันเองตามลำพังได้ชั่วขณะหนึ่ง อย่างไรก็ดีการที่มีสุนัขถึงสองตัวก็จะต้องมีที่มีทางให้แต่ละตัว เป็นของตัวเองด้วย เพราะบางครั้งพวกเค้าอาจจะอยู่ตามลำพังบ้าง และแน่นอนแต่ละตัวก็จะต้องมีชามข้าวและน้ำ เป็นของตัวเองด้วย การเลี้ยงสุนัขสองตัวจะไม่สร้างปัญหาเพิ่มจากการที่คุณเลี้ยงเค้าเพียงตัว เดียวเท่าไหร่นัก การจะพาสุนัข หนึ่งตัวหรือสองตัวไปเดินเล่นไม่ได้ยุ่งยากแตกต่างกัน

              จะ เหมาะที่สุดถ้าสุนัขสองตัวเป็นตัวผู้และตัวเมีย แต่ถ้าหากคุณไม่ต้องการให้เค้ามีลูกกัน ต้องไปทำหมัน ตัวใดตัวหนึ่งเสีย ถ้าสุนัขเป็นตัวผู้ทั้งคู่เขาจะได้โตมาด้วยกันและเป็นเพื่อนรักกันและจะยิ่ง ดีหากคุณได้ลูกสุนัขทั้งสองตัว มาจากครอกเดียวกัน แต่หากสุนัขตัวหนึ่งอยู่ตัวเดียวมาก่อนเป็นเวลานาน เค้าจะไม่กระตือรือร้นอยากมีเพื่อนใหม่เท่าใดนัก สถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างความคุ้นเคยก็คือสถานที่ทั่วๆไป (ไม่ใช่อาณาเขตของใคร) เช่น ในสวนสาธารณะ แล้วจากนั้นเมื่อสุนัขตัวที่สองเข้ามาในบ้าน สุนัขที่อยู่กับคุณมาก่อนจะต้องได้รับการเอาใจใส่และการดูแลจากคุณเหมือน เช่นเคย แต่เพื่อป้องกันพวกเค้าสองตัวทะเลาะกัน สุนัขทั้งสองจะต้องเข้าใจให้ได้ว่าคนที่เป็นเจ้าของ ก็คือ เจ้านายของเค้านั่นเอง
สุนัขกับแมว
              บรรดา สุนัขและแมวจะต้องทำความรู้จักกันก่อนเป็นสิ่งแรก ทั้งนี้เพราะภาษากายของพวกเค้านั้นมีความแตกต่างกัน อย่างสิ้นเชิง ยกตัวอย่างเช่นหากแมวตวัดหาง แปลว่าแมวกำลังโกรธ แต่ถ้าสุนัขกระดิกหางนั่นแสดงว่าเค้ากำลังมีความสุข นี่คือความแตกต่างที่พวกเค้าจะต้องเรียนรู้ ทำนองเดียวกันจะทำอย่างไรถึงจะให้เจ้าแมวน้อยรู้ว่าตอนไหนที่สุนัขโกรธ และควรจะปล่อยให้สุนัขอยู่ลำพัง หากสุนัขกำลังคำรามเสียงต่ำๆอยู่ในลำคอ แมวจะเข้าใจผิดตีความว่าสุนัขกำลังอารมณ์ดี เพราะแมวจะส่งเสียงครางในลำคอเวลาที่สบายตัวและพอใจหรือมีความสุข
              และ ถ้าสุนัขยกเท้าหน้าขึ้นก็จะหมายถึง “มาเล่นด้วยกันเถอะ” แต่กิริยาอย่างเดียวกันถ้าเกิดกับแมว กลับจะหมายความว่าปฏิเสธ หากคุณให้ทั้งสุนัขและแมวได้เติบโตขึ้นมาด้วยกันได้ พวกเค้าจะเรียนรู้ภาษาของกันและกัน ได้อย่างดีรวมทั้งจะกลายมาเป็นเพื่อนคู่หูกันด้วย แต่ถ้าคุณพาแมวตัวใหม่เข้าบ้านที่มีสุนัขรออยู่แล้ว ทุกอย่างจะเริ่มต้นไปด้วยดี คุณจะต้องให้ทั้งสองตัวอยู่แยกกันสักสองถึงสามวัน แต่ควรจะให้แต่ละตัวได้ยินซึ่งกันและกันผ่านประตูที่กั้นอยู่ จากนั้นให้ทั้ง สองได้เจอหน้ากันเป็นครั้งแรก ให้คุณอุ้มแมวไว้ในอ้อมแขนของคุณแล้วให้เธอมองดูสุนัข และแสดงให้เห็นว่าสุนัขนั้น เป็นเพื่อนที่ดีได้ ส่วนสุนัขซึ่งคุ้นเคยกับการอยู่รวมกันเป็นฝูง จะยอมรับสมาชิกใหม่ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ถ้าในกรณีกลับกัน คือคุณมีแมวอยู่ที่บ้านอยู่ก่อนแล้วและสุนัขเป็นผู้มาทีหลัง คุณจะต้องใช้เวลาสักพักเพื่อทำให้แมวเห็นสุนัขเป็นเพื่อนให้ได้
สุนัขกับเพื่อนสัตว์อื่นๆ
              การ ทำให้สัตว์คุ้นเคยกับเพื่อนอื่นๆนั้น จะเป็นเรื่องง่ายหากพวกเค้าได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนตัวอื่นๆในช่วงเวลา แห่งการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันในสังคม สุนัขจะเข้าทำความรู้จักกับสัตว์ตัวอื่นผ่านทางการดมกลิ่นเป็นหลัก ดังนั้นสัตว์ต่างๆ ก็จะทำความรู้จักกับตัวอื่นๆผ่านทางการดมกลิ่นก่อนที่จะเห็นตัวจริงเช่นกัน คุณจึงสามารถช่วยให้พวกเค้ารู้จักกันได้ง่ายขึ้น ด้วยการให้สุนัขลองดมเศษผ้าห่มหรือเศษขี้เลื่อยที่มีกลิ่นสัตว์ตัวอื่นติด อยู่(แล้วแต่ชนิดของสัตว์)แบบอยู่ห่างๆ คุณสามารถวาง เศษผ้าเหล่านี้ไว้ข้างๆที่นอนของสุนัข ขั้นต่อไปก็ให้สุนัขลองมองสัตว์อีกตัวอยู่แบบห่างๆ ขณะที่สัตว์ตัวนั้นกำลังหลับอยู่ แล้วขณะเดียวกันก็ให้พูดอะไรก็ได้กับสุนัขด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน แต่โปรดจำไว้ว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการผูกมิตรเท่านั้น และอย่าลืมว่าห้ามทิ้งสุนัขไว้ตามลำพังกับสัตว์ตัวอื่นอย่างเด็ดขาด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น