วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การศึกษาชิ้นใหม่ๆ พบว่าสุนัขควรจะกินอาหารให้น้อยลงและออกกำลังกายให้มากขึ้น

น้ำหนักตัวและการออกกำลังกายของสุนัขมีความเชื่อมโยงกับแนวโน้มและเทคโนโลยีของมนุษย์
                จากการติดตามผลการรายงานของ Surgeon General อย่างใกล้ชิด  รายงาน ว่ามนุษย์ที่เคลื่อนไหวร่างกายน้อย จะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นได้มาก โดยองค์กรที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงซึ่งมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งเห็นว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นในสัตว์เลี้ยงเช่นเดียวกัน
                จากผลการรายงานดังกล่าว ทำให้ Waltham ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำระดับโลก ทางด้านการดูแลและการโภชนาการสัตว์เลี้ยง  และ เป็นแหล่งข้อมูลหลักของ National Research Council (NRC) ซึ่งเป็นองค์กรที่กำหนดปริมาณความต้องการอาหารขั้นต่ำของสัตว์เลี้ยง ได้แก้ไขคำแนะนำด้านอาหารขององค์กร โดยเสนอแนะให้ใช้อาหารสัตว์เลี้ยงที่ให้พลังงานน้อยลงและหากจำเป็นก็ให้ลด ปริมาณอาหารต่อมื้อลงด้วย
                ผลการศึกษาของ Waltham ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการให้อาหาร น้ำหนักร่างกาย และรูปแบบการออกกำลังกายของสุนัข  ผล การศึกษาเปิดเผยว่า ในความเป็นจริงสัตว์เลี้ยงแทบทุกตัว ไม่ได้รับการออกกำลังกายนานเป็นเท่ากับ 60 นาทีต่อวัน เหมือนอย่างที่เคยคิดกันไว้ และการออกกำลังที่ไม่เพียงพอนี้ก็ไม่ได้นำมาพิจารณาเมื่อทำการแบ่งส่วนอาหาร
                สัตวแพทย์ โจ วิลล์ หัวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ประจำศูนย์ Waltham สำหรับโภชนาการของสัตว์เลี้ยงในประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยหลักของ Waltham กล่าวว่า “แนวทางการให้อาหารจะอยู่บนพื้นสมการอย่างง่าย คือ พลังงานที่บริโภคหักออกด้วยพลังงานที่ใช้ไป”    “และ เช่นเดียวกับในมนุษย์ หากพลังงานที่บริโภคไปในร่างการเกินกว่าพลังงานที่ใช้ไป สัตว์เลี้ยงก็จะมีน้ำหนักเพิ่มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

กิจกรรมของมนุษย์ที่ลดลงจะเท่ากับการลดกิจกรรมในสุนัข
                นัก วิทยาศาสตร์ของ Waltham อ้างว่า การเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคมและความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ประกอบกับกิจกรรมที่ลดลงของมนุษย์ซึ่งส่งผ่านไปถึงเพื่อนสุนัของเรา มีผลต่อระดับการอยู่เฉยๆของสัตว์เลี้ยง “ความสะดวกสบายสมัยใหม่ เช่น ระบบทำความร้อนแบบรวม ซึ่งลดความจำเป็นในการใช้พลังงานให้เกิดความอบอุ่น อาจจะเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อปัญหาการปฏิบัติตามคำสั่งในหมู่มนุษย์ที่เพิ่ม มากขึ้น” ด๊อกเตอร์ วิลส์ อธิบาย “นอกจากนี้ มีผู้ชายเพียง 10 เปอร์เซนต์และผู้หญิงอีก 20 เปอร์เซนต์ที่ได้รับการจ้างงานให้ทำงานในแบบที่จะต้องมีการใช้ทักษะทางร่าง กาย”
                “ง่ายๆ ครับ” วิลส์กล่าว “พอเราขับรถมากแล้วเดินน้อย สุนัขของเราก็จะออกกำลังน้อยไปด้วย พอเรานั่งอยู่หน้าทีวีและเครื่องคอมพิวเตอร์ สุนัขของเราก็จะนอนอย่างเกียจคร้านข้างๆเรา เราควรจะออกกำลังให้มากขึ้นนะ เราต้องให้สัตว์เลี้ยงได้ใช้พลังงานออกไปบ้าง เหมือนกับที่เราต้องใช้พลังงานเหมือนกัน เพื่อสนองตอบต่อแนวทางนี้”
ออกกำลังได้โดยไม่มีข้อแม้
                การ ค้นคว้ายังระบุอีกว่า ขนาดของร่างกายที่ปรากฏเป็นเพียงปัจจัยประการเดียวที่เห็นได้ชัดเจน สำหรับใช้ในการกำหนดปริมาณอาหารของสัตว์เลี้ยง ที่เจ้าของจะต้องเป็นคนให้(อย่างเช่นในสุนัขที่พันธุ์ใหญ่ก็จะต้องให้อาหาร ในปริมาณที่มากขึ้น) แต่ไม่มีการพิจารณาของการออกกำลังกายว่าจะต้องให้สุนัขนั้นออกกำลังเป็น ประจำในปริมาณเท่าใด
                ตาม ที่ด็อกเตอร์ เจมส์ เอช โซโคโลวสกี้จาก Waltham U.S.A Inc., มีเอกสารหลายหน้าที่แสดงถึงการเทียบเคียงกันแบบตัวต่อตัวระหว่างสัตว์เลี้ยง ที่มีน้ำหนักเกินพอดีและเจ้าของของพวกเค้า “อัตราส่วนที่เห็นนี้ ประกอบไปด้วยการค้นคว้าของเราในเรื่องการลดการออกกำลังกายของสัตว์เลี้ยง ให้เราอธิบายการลงความเห็นให้ฟังว่าทำไมสัตว์เลี้ยงอาจจะไม่ตอบสนองกับเทคโน โลยี่โดยตรง แต่พวกเค้ายังคงได้รับผลกระทบด้วยสิ่งนี้อยู่” ด็อกเตอร์ โซโคโลวสกี้กล่าว “แม้การค้นคว้านี้จะไปทำที่ อังกฤษก็ตาม แต่การศึกษานี้หมายรวมถึงความสำคัญสำหรับสัตว์เลี้ยงในอเมริกา รายละเอียดในการศึกษาเรื่องนี้นั้น เป็นประเด็นกับทุกประเทศที่เป็นประเทศอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกา เพราะความมั่งคั่งและการเน้นหนักให้ความสำคัญกับเรื่องของความก้าวหน้าทาง ด้านเทคโนโลยี”
                ด็อก เตอร์ โซโคโลวสกี้ได้ชี้ให้เห็นว่า ข้อปฏิบัติในการให้อาหารแบบใหม่จาก Waltham ที่กำลังจะนำไปใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลกนั้นมีความพ้องกันกับ กรมการเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา ที่ได้ให้ความเห็นไว้ในข้อปฏิบัติในการโภชนาการสำหรับมนุษย์ฉบับใหม่ที่ออก เมื่อเดือนมกราคม ว่าการออกกำลังหรือการทำกิจกรรมน้อยๆนั้น ควรจะพิจาณาเรื่องอาหารด้วย  แต่ด๊อกเตอร์ วิลส์ และ ด็อกเตอร์โซโคโลวสกี้มีเห็นด้วยว่าข้อแนะนำใหม่ควรจะได้รับการพิจารณาสำหรับเป็นแนวทางเท่านั้น
สัตว์เลี้ยงทุกตัวนั้นต่างกัน
                “สัตว์ เลี้ยงทุกตัวนั้นต่างกัน และทั้งสัตว์แพทย์รวมถึงเจ้าของจะต้องนำเอาปัจจัยน้ำหนัก ภาวะ สายพันธุ์ และระดับการทำกิจกรรมของสัตว์เลี้ยง มารวมกันเพื่อกำหนดอาหารที่จะต้องให้กินเข้าไป หากระดับการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายนั้นอยู่ในระดับที่ต่ำ เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรจะพิจารณาเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนิน ชีวิตของตัวเอง เพื่อเพิ่มกิจกรรมหรือการออกกำลังกายทั้งของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้มากขึ้น เพื่อต่อสู้กับการเพิ่มขึ้นของปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวของทั้งเจ้าของ และสัตว์เลี้ยงของตน” วิลส์ ปิดท้าย
                สัตว์เลี้ยงก็เหมือนกับมนุษย์ ด็อกเตอร์ โซโคโลวสกี้  เตือน ว่าสัตว์เลี้ยงที่มีน้ำหนักมากเกินไปจะยิ่งประสบปัญหาทางด้านสุขภาพมากขึ้น และยังอ้างว่าจากหลักฐานมากมายแสดงให้เห็นว่า อารมณ์และลักษณะทางกายภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยงนั้น จะเยี่ยมยอดที่สุดเมื่อพวกเค้ามีความกระฉับกระเฉงและดูแลน้ำหนักให้พอดีอยู่ เสมอ
                “สำหรับ สุนัขซึ่งมีน้ำหนักมากเกินไปและไม่ค่อยกระฉับกระเฉงนั้นจำเป็นจะต้องให้ อาหารที่มีแคลอรี่น้อยๆ และถ้าเป็นไปได้ก็ให้ลดการให้อาหารเค้าลงด้วย ขณะที่สุนัขอื่นๆที่ไม่เป็นอย่างนี้อาจจะจำเป็นต้องได้รับอาหารพิเศษสำหรับ สัตว์เลี้ยงโดยตรงด้วย”   ด็อกเตอร์ โซโคโลวสกี้จาก Waltham ต่อท้าย

ควรจะให้อาหารเค้าเท่าไหร่ดีนะ?

สุนัข นั้นต้องการการโภชนาการที่สมดุล นั่นหมายถึงประเภทของสารอาหารที่เหมาะสมและให้พลังงานที่เพียงพอ แก่ความต้องการของร่างกายสุนัขในแต่ละวัน ปริมาณพลังงานที่สุนัขต้องการนั้นยังขึ้นอยู่กับขนาดของพวกเค้า ปริมาณการออกกำลังกายหรือระดับกิจกรรมในแต่ละวันอีกด้วย ปัจจัยที่สำคัญอีกประการหนึ่งในการกำหนดก็คือช่วงชีวิต แต่ละช่วงของสุนัข ว่าเขาอยู่ในช่วงโต เต็มวัย กำลังโต เป็นแม่สุนัขที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมลูก ซึ่งแต่ละช่วงจะต้องการพลังงานในระดับที่แตกต่างกันไป ในบทความนี้จะช่วยให้คุณได้รู้ว่าสุนัขของคุณควรจะกิน อาหารในปริมาณ เท่าไหร่ด้วยปัจจัยเหล่านี้

สุนัขโตที่ไม่ค่อยมีกิจกรรมน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงต่อวัน

สุนัขพันธุ์เล็กที่มีกิจกรรมน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงต่อวัน
                สุนัข ที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ต้องการแคลอรี่วันละ 110-620 แคลอรี่ต่อวัน ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับขนาดตัวของเค้าด้วย (กรุณาขอคำปรึกษาจากสัตว์แพทย์เพิ่มเติมด้วย) เนื่องจากเค้ามีกิจกรรมหรือการออกกำลังกายต่อวันที่ค่อนข้างน้อย หรือไม่ค่อยมีกิจกรรม พยายามอย่าให้อาหารเค้าที่เกินความจำเป็น ไม่เช่นนั้นเค้าจะกลายมาเป็นสุนัขที่น้ำหนักเกินง่ายมาก พยายามหลีกเลี่ยงการให้อาหารที่เหลือๆกับเขา เพราะจะเป็นการให้พลังงานกับเค้ามากเกินไป หากเป็นไปได้ ให้เขาออกกำลังกายเพิ่มขึ้นวันละ 1-2 ชั่วโมง และโปรดจำไว้ว่านี่เป็นเพียงคำแนะนำโดยรวม สุนัขแต่ละตัวก็จะต้องการพลังงานแตกต่างกันไป สุนัขต่างสายพันธุ์แม้ว่าจะมีน้ำหนักเท่าๆกันหรือกิจกรรมคล้ายๆกัน ก็ต้องการพลังงานในระดับที่แตกต่างกัน

สุนัขพันธุ์กลางที่มีกิจกรรมน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงต่อวัน
                สุนัข ที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ต้องการพลังงานวันละ 620-1,230 แคลอรี่ต่อวัน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดตัวของเค้าด้วย (กรุณาขอคำปรึกษาจากสัตว์แพทย์เพิ่มเติมด้วย) เมื่อสุนัขเค้ามีกิจกรรมหรือการออกกำลังกายต่อวันที่ค่อนข้างน้อย หรือไม่ค่อยมีกิจกรรม พยายามอย่าให้อาหารเค้าที่เกินความจำเป็นไม่เช่นนั้นเค้าจะกลายมาเป็นสุนัข ที่น้ำหนักเกินง่ายมาก พยายามหลีกเลี่ยงการให้อาหารเหลือๆ เพราะจะเป็นการให้พลังงานกับเค้ามากเกินไป หากเป็นไปได้ ให้เพิ่มปริมาณการทำกิจกรรมของเค้าเพิ่มขึ้นสักประมาณ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน และโปรดจำไว้ว่านี่เป็นเพียงคำแนะนำโดยรวม สุนัขแต่ละตัวก็จะต้องการพลังงานแตกต่างกันไป สุนัขต่างสายพันธุ์แม้ว่าจะมีน้ำหนักเท่าๆกันหรือกิจกรรมคล้ายๆกัน ก็ต้องการพลังงานในระดับแตกต่างกัน

สุนัขพันธุ์ใหญ่ที่มีกิจกรรมน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงต่อวัน
                สุนัข ที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ต้องการพลังงานอย่างน้อยวันละ 1,230 แคลอรี่ต่อวัน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดตัวและ สายพันธุ์ของเค้าด้วย (กรุณาขอคำปรึกษาจากสัตว์แพทย์เพิ่มเติมด้วย) ยกตัวอย่างเช่นสุนัขที่พันธุ์ตัวใหญ่มากๆ ซึ่งอาจมีน้ำหนักมากกว่า 200 ปอนด์ และต้องการพลังงานมากถึงวันละ 3,500 แคลอรี่ แต่เมื่อสุนัขเค้ามีกิจกรรมหรือการออกกำลังกายต่อวันที่ค่อนข้างน้อยหรือไม่ ค่อยมีกิจกรรม คุณต้องระวังอย่าให้อาหารเค้า มากเกินความจำเป็นไม่เช่นนั้นเค้าจะกลายมาเป็นสุนัขที่น้ำหนักเกินง่ายมาก พยายามหลีกเลี่ยงการให้อาหารเหลือๆ เพราะจะเป็นการให้พลังงานกับเค้ามากเกินไป หากเป็นไปได้ พยายามให้เขาออกกำลังกายเพิ่มขึ้นสักประมาณ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน และโปรดจำไว้ว่านี่เป็นเพียงคำแนะนำโดยรวม สุนัขแต่ละตัวก็จะต้องการพลังงานแตกต่างกันไป สุนัขต่างสายพันธุ์แม้ว่า จะมีน้ำหนักเท่าๆ กันหรือกิจกรรมคล้ายๆกัน ก็ต้องการพลังงานในระดับแตกต่างกัน


สุนัขโตที่มีกิจกรรมปานกลาง ระหว่างหนึ่งถึงสองชั่วโมงต่อวัน

สุนัขพันธุ์เล็กเล็กที่มีกิจกรรมอยู่ระหว่าง หนึ่งถึงสองชั่วโมงต่อวัน
                การ ออกกำลังหรือทำกิจกรรมขนาดนี้สำหรับสุนัขทั่วไปนับว่าเพียงพอแล้ว ควรรักษาระดับให้ได้ประมาณนี้ทุกๆวัน สุนัขพันธุ์ตัวเล็กที่มีการออกกำลังอยู่ในระดับนี้จะต้องการพลังงาน 125-700 แคลอรี่ต่อวัน ขึ้นอยู่กับขนาดของเค้าด้วย (กรุณาขอคำปรึกษาจากสัตว์แพทย์เพิ่มเติมด้วย) แต่หากเป็นฤดูหนาวหรือในสภาพอากาศที่เย็นนั้น คุณก็จะต้อง เพิ่มปริมาณอาหารให้เค้าด้วย เพราะเขาต้องการพลังงานมากขึ้นเพื่อรักษาระดับอุณหภูมิ ของร่างกายในอากาศที่เย็นขึ้น ดังนั้นคุณจึงควรเพิ่มปริมาณอาหารให้เขาได้พลังงานมากพอควรให้อาหารที่มีสาร อาหารครบด้วนและสมดุล หลีกเลี่ยงการให้ เศษอาหารหรืออาหารเหลือเพราะถึงแม้จะให้พลังงานสูงแต่อาจไม่ให้สารอาหารที่ มีประโยชน์อย่างครบถ้วน และโปรดจำไว้ว่านี่เป็นเพียงคำแนะนำโดยรวม สุนัขแต่ละตัวก็จะต้องการพลังงานแตกต่างกันไป สุนัขต่างสายพันธุ์แม้ว่า จะมีน้ำหนักเท่าๆ กันหรือกิจกรรมคล้ายๆกัน ก็ต้องการพลังงานในระดับแตกต่างกัน

สุนัขพันธุ์กลางที่มีกิจกรรมอยู่ระหว่าง หนึ่งถึงสองชั่วโมงต่อวัน
                สุนัข ขนาดกลางต้องการพลังงานอย่างน้อยวันละ 700-1,400 แคลอรี่ต่อวัน ขึ้นอยู่กับขนาดตัวของเค้าด้วย (กรุณาขอคำปรึกษาจากสัตว์แพทย์เพิ่มเติมด้วย) โดยทั่วไปปริมาณการออกกำลังกายประมาณหนึ่งหรือสองชั่วโมงนั้น สำหรับสุนัขขนาดนี้นับว่าเพียงพอแล้ว และควรรักษาระดับให้ได้ทุกวัน แต่หากเป็นฤดูหนาวหรือในสภาพอากาศที่เย็นนั้น คุณก็จะต้องเพิ่มปริมาณอาหารให้เค้าด้วย โดยเฉพาะสุนัขที่นอนอยู่นอกบ้าน เพราะเขาต้องการพลังงานมากขึ้น เพื่อรักษาระดับอุณหภูมิของร่างกายในอากาศที่เย็นขึ้น ดังนั้นคุณจึงควรเพิ่มปริมาณอาหารให้เขาได้พลังงานมากพอ ควรให้อาหารที่มีสารอาหารครบด้วนและสมดุล หลีกเลี่ยงการให้เศษอาหารหรือาหารเหลือเพราะถึงแม้จะให้พลังงานสูง แต่อาจไม่ให้สารอาหารที่มีประโยชน์อย่างครบถ้วน และโปรดจำไว้ว่านี่เป็นเพียงคำแนะนำโดยรวม สุนัขแต่ละตัวก็จะ ต้องการพลังงานแตกต่างกันไป สุนัขต่างสายพันธุ์แม้ว่าจะมีน้ำหนักเท่าๆกันหรือกิจกรรมคล้ายๆกัน ก็ต้องการพลังงาน ในระดับแตกต่างกัน

สุนัขพันธุ์ใหญ่ที่มีกิจกรรมอยู่ระหว่างหนึ่งถึงสองชั่วโมงต่อวัน
                สุนัข ที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ต้องการแคลอรี่อย่างน้อยวันละ 1,400 แคลอรี่ต่อวัน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดตัวของเค้าด้วย (กรุณาขอคำปรึกษาจากสัตว์แพทย์เพิ่มเติมด้วย) ยกตัวอย่างเช่นสุนัขที่พันธุ์ตัวใหญ่มากๆ ซึ่งอาจมีน้ำหนักมากกว่า 200 ปอนด์ และต้องการพลังงานถึงวันละ 3,950 แคลอรี่ โดยทั่วไปการออกกำลังหรือทำกิจกรรมขนาดนี้นับว่าเพียงพอแล้ว แต่คุณก็จะต้องรักษาระดับให้ได้ทุกวัน แต่หากเป็นฤดูหนาวหรือในสภาพอากาศที่เย็นนั้น คุณก็จะต้องเพิ่มปริมาณอาหาร ให้เค้าด้วย โดยเฉพาะสุนัขที่นอนอยู่นอกบ้านเพราะเขาต้องการพลังงานมากขึ้น เพื่อรักษาระดับอุณหภูมิของร่างกาย ในอากาศที่เย็นขึ้น ดังนั้นคุณจึงควรเพิ่มปริมาณอาหารให้เขาได้พลังงานมากพอ ควรให้อาหารที่มีสารอาหารครบด้วนและสมดุล หลีกเลี่ยงการให้เศษอาหารหรือาหารเหลือเพราะถึงแม้จะให้พลังงานสูง แต่อาจไม่ให้สารอาหารที่มีประโยชน์อย่างครบถ้วน และโปรดจำไว้ว่านี่เป็นเพียงคำแนะนำโดยรวม สุนัขแต่ละตัวก็จะต้องการพลังงานแตกต่างกันไป สุนัขต่างสายพันธุ์ แม้ว่าจะมีน้ำหนักเท่าๆกันหรือกิจกรรมคล้ายๆกัน ก็ต้องการพลังงาน ในระดับแตกต่างกัน




สุนัขโตที่มีกิจกรรมพอสมควรถึงมาก ระหว่าง สองถึงสามชั่วโมงต่อวัน

สุนัขพันธุ์เล็กที่มีกิจกรรมอยู่ระหว่าง สองถึงสามชั่วโมงต่อวัน
                สุนัข ที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ต้องการแคลอรี่วันละ 150-840 แคลอรี่ต่อวัน ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับขนาดตัวของเค้าด้วย (กรุณาขอคำปรึกษาจากสัตว์แพทย์เพิ่มเติมด้วย) การออกกำลังหรือทำกิจกรรมขนาดนี้ถือว่าค่อนข้างมากสำหรับสุนัขทั่วๆไป และพลังงานที่เค้าต้องการก็ขึ้นอยู่กับระดับการออกกำลังหรือการทำกิจกรรมที่ แตกต่างกันในแต่ละวันด้วย ที่สำคัญก็คือ คุณจำเป็นที่จะต้องตรวจดูน้ำหนักของเค้าและสุขภาพโดยทั่วไปอยู่เสมอ เพื่อเปลี่ยนปริมาณอาหารให้เค้าอย่างเหมาะสมได้ทันที

สุนัขพันธุ์กลางที่มีกิจกรรมอยู่ระหว่างหนึ่งถึงสามชั่วโมงต่อวัน
                ณ ระดับการออกกำลังที่มากกว่าระดับความต้องการการออกกำลังตามธรรมดาแล้ว สุนัขขนาดกลางของคุณ ต้องการพลังงานวันละ 840-1,680 แคลอรี่ต่อวัน ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับขนาดตัวของเค้าด้วย (กรุณาขอคำปรึกษาจากสัตว์แพทย์เพิ่มเติมด้วย) พลังงานที่เค้าต้องการก็ขึ้นอยู่กับระดับการออกกำลังหรือการทำกิจกรรม ที่แตกต่างกันในแต่ละวันด้วย ควรตรวจดูน้ำหนักของเค้าและสุขภาพโดยทั่วไปอยู่เสมอ เพื่อเปลี่ยนปริมาณอาหารให้เค้าอย่างเหมาะสมได้ทันที

สุนัขพันธุ์ใหญ่ที่มีกิจกรรมอยู่ระหว่างสองถึงสามชั่วโมงต่อวัน
                ถ้า เค้าเป็นสุนัขที่มีกิจกรรมอยู่ตลอดอย่างนี้ สุนัขตัวใหญ่ของคุณก็ต้องการพลังงานวันละ 1,680 แคลอรี่ หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับขนาดตัวของเค้าด้วย (กรุณาขอคำปรึกษาจากสัตว์แพทย์เพิ่มเติมด้วย) ปริมาณการออกกำลังหรือทำกิจกรรมขนาดนี้ถือว่าสูงกว่าสุนัขทั่วไปแล้ว และพลังงานที่เค้าต้องการก็ขึ้นกับว่า เขามีกิจกกรมอย่างนี้สม่ำเสมอทุกวันหรือไม่ สำหรับสุนัขพันธุ์ที่ตัวใหญ่มากๆนั้นเขาอาจไม่ได้มีกิจกกรมมากขนาดนี้ทุกวัน แต่ไม่ว่าเขาจะมีขนาดไหน คุณจำเป็นที่จะต้องตรวจดูน้ำหนักของเค้าและสุขภาพโดยทั่วไปอยู่เสมอ เพื่อเปลี่ยนปริมาณอาหาร ให้เค้าอย่างเหมาะสมได้ทันที

สุนัขโตที่มีกิจกรรมตลอดทั้งวัน รวมถึงสุนัขทุกขนาดด้วย
                เรา ถือว่าสุนัขโตที่มีกิจกรรมมากมายตลอดทั้งวันนั้นเป็นสุนัขที่มีความกระฉับ กระเฉงอยู่ตลอดเวลา ความต้องการ พลังงานอย่างน้อยของเขาจะมากกว่าสุนัขที่่มีกิจกรรมปานกลางอยู่ 40% ขึ้นอยู่กับขนาดตัวของเค้าด้วย (กรุณาขอคำปรึกษาจากสัตว์แพทย์เพิ่มเติมด้วย)
ยิ่ง ถ้าเค้าเป็นสุนัขที่อยู่ในสภาพแวดล้อมืรหดและอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงมากๆ เค้าก็ยิ่งต้องการพลังงานเพิ่ม มากกว่าเดิมขึ้นไปอีก ในกรณีเช่นนี้ เค้าจะต้องได้รับอาหารต่อวันในปริมาณที่เยอะมาก (อาจจะ 2-4 เท่า จากระดับปกติ) และแน่นอนว่าเค้าต้องได้อาหารอย่างน้อยมากกว่า 1 มื้อต่อวัน ให้อาหารเค้าเมื่อเขาทำงานที่ต้องทำในแต่ละวัน เสร็จแล้วเมื่อเขามีเวลาพักผ่อนและฟื้นกำลังสำหรับวันใหม่ จากนั้นให้ให้อาหารในส่วนที่เหลือ โดยประมาณเวลาที่เหมาะสม ตามที่คุณเห็นควรก่อนจะเริ่มต้นงานใหม่ และสิ่งสำคัญที่สุดที่ลืมไม่ได้เลยก็คือคุณจะต้องเตรียมน้ำที่สะอาดและใหม่ เสมอ รอไว้ให้เค้าได้ดื่มอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสุนัขในกลุ่มนี้จะกินน้ำในปริมาณต่อวันที่มากเพื่อรักษาระดับอุณหภูมิ ของร่างกายให้คงที่

สุนัขที่มีอายุมากทุกขนาด
                เมื่อ สุนัขของคุณมีอายุมากขึ้น เค้าจะต้องการพลังงานน้อยลง เนื่องจากปริมาณกิจกรรมที่น้อยลงรวมถึงโครงสร้าง ของร่างกายที่เปลี่ยนไปด้วยซึ่งมีผลต่อกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย ต่อไปนี้จะเป็นความต้องการพลังงานที่เปลี่ยนไปตามอายุ และจะเป็นการแสดงให้เห็นถึง สุนัขที่มีอายุเท่าไหร่ ขนาดไหนนั้น ที่เรียกว่ามีอายุมากแล้ว
                สุนัข พันธุ์เล็ก: พิจารณาว่ามีอายุมาก หากสุนัขนั้นมีอายุได้ 9-10 ปีแล้ว พวกเค้าต้องการพลังงาน 100-560 แคลอรี่ต่อวัน ขึ้นอยู่กับขนาดร่างกาย
                สุนัข ขนาดกลาง: พิจารณาว่ามีอายุมาก หากสุนัขนั้นมีอายุได้ 7-8 ปีแล้ว พวกเค้าต้องการพลังงาน 560-1,200 แคลอรี่ต่อวัน ขึ้นอยู่กับขนาดร่างกาย
                สุนัข ขนาดใหญ่: พิจารณาว่ามีอายุมาก หากสุนัขนั้นมีอายุได้ 7-8 ปีแล้ว พวกเค้าต้องการพลังงาน 1,120-1,880 แคลอรี่ต่อวัน ขึ้นอยู่กับขนาดของร่างกาย
                สุนัข ขนาดใหญ่มาก (50 กิโลกรัมขึ้นไป) : พิจารณาว่ามีอายุมาก หากสุนัขนั้นมีอายุได้ 5-6 ปีแล้ว พวกเค้าต้องการพลังงาน 1,880 แคลอรี่หรือมากกว่านั้นต่อวัน ขึ้นอยู่กับขนาดของร่างกาย
(ให้ขอคำปรึกษาจากสัตว์แพทย์ถึงปริมาณพลังงานที่สุนัขตัวนั้นของคุณเค้าต้องการต่อวัน)
                นอก จากสุนัขที่มีอายุมากจะต้องการพลังงานที่น้อยกว่าสุนัขที่อยู่ในวัยหนุ่มสาว แล้ว พวกเค้ายังมีความอยากอาหาร ลดลงด้วย ซึ่งจะทำให้วิธีการกินอาหารของพวกเค้าผิดไป ยกตัวอย่างเช่นจากการสืบทราบพบว่า ในอเมริกานั้นมีอยู่ 16% ที่มีสุนัขอายุ 12 ปีต้องอยู่โรงพยาบาลสัตว์ เนื่องมาจากอายุต่ำกว่าเกณฑ์ ในขณะที่พบเพียง 5% เท่านั้นที่มีน้ำหนักเกิน ดังนั้นอาหารที่ดีที่สุดในรูปแบบที่จะให้กับสุนัขที่มีอายุสูงมากๆเช่นนี้ ได้ก็ต้องให้มีรสชาติที่อร่อยน่ากิน และสามารถย่อยสลายได้ง่ายมากๆ แต่เวลาที่จะต้องให้อาหารพวกนี้แก่เค้า ก็จะต้องลดปริมาณลงตามที่เค้าใช้พลังงานด้วย หมายถึงว่า ใช้พลังงานน้อย ก็กินให้น้อยนั่นเอง อาหารเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องให้ในปริมาณที่สมดุลย์ และมีสารอาหารครบถ้วนในขณะที่ให้พลังงานน้อยลง ยังถือว่าเราโชคดีกันอยู่มากๆที่อาหารพิเศษสำหรับสุนัข อายุมากๆเช่นนี้ยังมีขายอยู่ และแน่นอนว่าเขาผลิตขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ

แม่สุนัขที่กำลังตั้งครรภ์ในทุกขนาดและทุกพันธุ์
                แม่ สุนัขที่กำลังตั้งครรภ์ในทุกขนาดนั้นต้องการอาหารเพิ่มไม่มากนักเมื่อเธอ อยู่ในช่วง 5-6 สัปดาห์แรก ของการตั้งครรภ์ ทั้งนี้เพราะลูกของเธอที่อยู่ในครรภ์นั้นจะยังไม่มีการเจริญเติบโตมากนัก ในระยะที่ลูกที่อยู่ในครรภ์มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วนั้น จะเป็นช่วง 3 สัปดาห์สุดท้ายของการตั้งครรภ์ ซึ่งในระยะนี้ แม่สุนัขที่กำลังตั้งครรภ์ต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นในแต่ละสัปดาห์ประมาณ 15% และเมื่อเธอให้กำเนิดลูกๆนั้น เธอจะต้องการอาหารเพิ่มขึ้นเป็น 50-60% เมื่อเทียบกับพลังงานที่เธอเคยได้รับเมื่อยามปกติ

แม่สุนัขที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งการให้นมลูกทุกขนาดและทุกพันธุ์
                ช่วง เวลาแห่งการให้นมลูกของแม่สุนัขนั้นเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดของชีวิต พลังงานที่ร่างกายของแม่สุนัขต้องการ เพิ่มขึ้นนั้นขึ้นอยู่กับขนาดและอายุของลูกๆของเธอ แต่ในช่วงที่เธอจะต้องให้นมลูกมากที่สุด คือเมื่อบรรดาลูกๆของเธอ อายุได้ประมาณ 4 สัปดาห์ ซึ่งความต้องการพลังงานของแม่สุนัขจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่าของระดับความต้องการพลังงานปกติ นี่เป็นกรณีที่เกิดขึ้นเป็นพิเศษ อาหารที่เธอจะต้องได้รับในแต่ละวันนั้นจะต้องมีรสชาติที่ดี ย่อยง่าย และให้สารอาหารเข้มข้นเป็นพิเศษ หากจะให้อาหารเป็นมื้อๆ ก็จะต้องให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการ หรือไม่เช่นนั้นจะดียิ่งขึ้นไปอีกหากจะมีอาหารรอเธอไว้ทั้งวัน และแน่นอนว่าควรจะเตรียมน้ำดื่มที่ใหม่และสะอาดจำนวนมากๆ ไว้สำหรับแม่สุนัขด้วย เนื่องจากแม่สุนัขจะสูญเสียน้ำในร่างกายไปเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับปริมาณ ที่ดื่มในยามปกติ ทั้งนี้ก็เพื่อใช้น้ำในการผลิตออกมาเป็นนมให้ลูกๆของเธอนั่นเอง

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

สุนัขอายุมาก

สุนัขที่มี อายุมากๆนั้นมีความต้องการเพิ่มเติมเป็นพิเศษ ร่างกายของเค้ากำลังเริ่มจะเชื่องช้าลงอันเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นถึงความ เหนื่อยอ่อนและชีวิตกำลังเริ่มย่างก้าวเข้าไปหาจุดสิ้นสุดแล้ว ความมีอายุยืนของสุนัขนั้นมีขึ้นได้จากสาเหตุที่กว้างมาก และยังขึ้นอยู่กับแต่ละพันธุ์ด้วยแม้ว่ายังมีอีกหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ด้วยก็ตาม จุดเริ่มต้นชีวิตที่ดีนั้น ก็คือการดูแลอย่างถูกวิธีและรวมถึงการให้การโภชนาการที่ถูกต้องนับตั้งแต่ เวลาที่เค้าเป็นลูกสุนัขตลอดจนเวลาที่เค้าโตขึ้นมา สิ่งเหล่านี้จะดีติดตัวสุนัขไป และมีส่วนทำให้เค้ามีชีวิตอย่างกระฉับกระเฉงไปยาวนานแม้เค้าแก่ตัวลงก็ตาม
              เมื่อ คุณอยู่กับเค้าทุกๆวัน คุณจะไม่สังเกตเห็นถึงความชราของเค้าที่ค่อยๆเพิ่มมากขึ้นทีละนิดหรอก แต่หากคุณให้การดูแลกับเค้าให้มากขึ้นไปอีกนิด คุณจะสามารถทำให้สุนัขที่มีอายุมากๆของคุณนั้นมีความสบาย และด้วยการหมั่นพาเค้าไปตรวจกับสัตว์แพทย์เป็นประจำ เมื่อรวมกับข้อที่ควรคำนึงประการอื่นๆแล้วคุณจะสามารถทำให้เค้ามีสุขภาพที่ ดีไปเรื่อยๆจนกระทั่งก่อนวันสุดท้ายของเค้า หากว่าเค้าอายุได้ 8-9 ปีแล้วก็ถือได้ว่าสุนัขของคุณเริ่มเข้าสู่วัยที่มีอายุมากแล้ว ในสุนัขพันธุ์ใหญ่มากๆนั้นอาจจะคำนวณว่าเค้าอยู่ในช่วงชีวิตนี้เมื่อเค้ามี อายุได้ประมาณ 8 ปี หรือเร็วกว่านั้น ในขณะที่สุนัขพันธุ์เทอร์เรียและสุนัขพันธุ์ผสมนั้นจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ ยาวนานที่สุดคือประมาณ 15 ปีหรือมากกว่านั้น

เชื่องช้าลง
              ร่าง กายของเค้าในอายุขนาดนี้ อวัยวะในร่างกายที่สำคัญๆก็เริ่มเสื่อมสภาพลงทีละน้อยๆ เค้าจะกระฉับกระเฉงน้อยลงกว่าเดิม ดังนั้นเค้าจะต้องการอาหารที่มีพลังงานน้อยๆ รวมถึงความสามารถในการทำงานของอวัยวะต่างๆก็มีประสิทธิภาพลดน้อยลงกว่าเดิม
              เพราะ ร่างกายเค้าเชื่องช้าลง ร่างกายเค้าจะไม่สามารถพร้อมสำหรับการรับมือกับโรคและความเค้นอื่นๆ ดังนั้นให้รักษาระดับของสิ่งเหล่านี้ไว้ให้ต่ำที่สุด คุณจะต้องใช้ความอดทนที่จะรับมือกับสุนัขที่มีอายุมากๆแล้วของคุณเมื่อเค้า เชื่องช้าลงกว่าเดิม เค้าอาจจะไม่สามารถได้ยินหรือเห็นคุณได้ถนัดนัก การที่เค้าไม่ตอบสนองคุณไม่ได้หมายความว่าเค้ามีเจตนาที่จะไม่เอาใจใส่คุณ หรอกนะ สุนัขของคุณในตอนนี้น่ะต้องการความช่วยเหลือจากคุณเพิ่มอีกนิดและเค้าก็ต้อง การเพื่อนด้วย อดทนไว้ เพราะเค้าสมควรได้รับการดูแลจากคุณ
การทำให้สุนัขที่มีอายุมากมีความสุขและสบายขึ้น
              เนื่อง มาจากสุนัขที่อยู่ในช่วงชีวิตเช่นนี้จะมีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อย เค้าจะใช้เวลานานมากขึ้นกว่าจะล้มตัวลงนอนสักที่ได้ ให้มั่นใจว่าตลอดเวลานั้น เค้าไม่ได้นอนลงในที่ที่เย็น ชื้น หรือในที่ที่รับความร้อนจากแสงอาทิตย์โดยตรง ให้คุณดูแลที่นอนของเค้าให้อบอุ่น เรียบและรองให้นุ่มด้วยเบาะอย่างดี หากเค้านอนนานๆบนพื้นที่ที่ไม่เรียบ ขรุขระ หรือแข็งเกินไป โดยเฉพาะกับกรณีที่สุนัขของคุณนั้นมีน้ำหนักมาก ก็อาจจะก่อให้เกิดหนังด้านตรงส่วนที่กระดูกกดทับ อย่างเช่นตรงข้อศอกหรือข้อเท้าของเค้า อันเป็นสาเหตุให้เกิดแผลและติดเชื้อได้
              ให้ดูด้วยว่าเค้า สามารถไปยังที่นอนเค้าได้ง่ายๆ หากที่นอนเค้าอยู่ชั้นบนและเค้ามีปัญหาในการเดินขึ้นบันไดให้คุณหารั้วมากัน ไว้ไม่ให้เค้าขึ้นชั้นบนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แล้วจัดที่นอนไว้ชั้นล่างให้เค้าแทน อย่าลืมว่าสายตาของสุนัขในวัยนี้นั้นเริ่มจะมองเห็นสิ่งต่างๆได้ไม่ดีนัก รวมทั้งการได้ยินและการจับทิศทางก็ไม่ดีเหมือนเก่าแล้วด้วย นั่นจึงหมายความว่าสุนัขของคุณอาจจะไม่ได้ยินที่คุณสั่งหรือพูดกับเค้า และอย่าพยายามไปปรับเปลี่ยนหรือย้ายข้าวของในบ้านให้มากจนเค้าจำไม่ได้ และแน่นอนว่าอย่าทิ้งเค้าไว้ตามลำพังเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่แปลกๆ
การพาเค้าไปตรวจร่างกายกับสัตว์แพทย์เป็นประจำ
              การ ฉีดวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันประจำปีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุนัขที่มีอายุ มากๆ เช่นเดียวกับตอนที่เค้ายังหนุ่มๆอยู่ สุนัขที่มีอายุมากๆนั้นจะมีความสามารถในการต้านทานโรคต่ำลงและไม่สามารถ ต่อสู้กับการติดเชื้อได้ดีเหมือนเดิมแล้ว ให้พาสุนัขของคุณไปให้สัตว์แพทย์ได้ตรวจร่างกายเป็นประจำ ซึ่งเขาจะให้คำแนะนำคุณได้ว่าในสุนัขบางตัวจะต้องมาตรวจร่างกายเป็นประจำ บ่อยขนาดไหนด้วย และสัตว์แพทย์จะประเมินสุขภาพทั่วไปของอวัยวะต่างๆที่สำคัญอย่างเช่นผิวหนัง หัวใจ ไต และตับ นอกจากนี้ผู้เป็นสัตว์แพทย์ยังจะตรวจบรรดาก้อนโปนที่ผิดปกติ สุขภาพในช่องปากของสุนัขให้ด้วย โรคบางอย่าง อย่างเช่นโรคที่เกี่ยวกับไตก็ควรจะได้รับการตรวจและบำบัดเสียแต่ยังเป็น น้อยๆอยู่ด้วยการตรวจตัวอย่างเลือดที่ได้จากสุนัข (หมายถึงควรจะตรวจเสียก่อนที่จะมีสัญญาณทางแพทย์บ่งบอกถึงโรคนี้ซึ่งปรากฏ ให้เห็นทางร่างกายแล้ว)
              ตัวอย่างปัสสาวะของสุนัขก็สามารถ นำมาใช้เป็นข้อมูลสุขภาพสำหรับตัวสุนัขได้ด้วย ดังนั้นคุณก็สามารถจะเก็บตัวอย่างปัสสาวะ แล้วนำไปให้สัตว์แพทย์ตรวจตอนพาเค้าไปฉีดวัคซีนหรือเมื่อถึงเวลาตรวจประจำปี ด้วยได้ ก่อนที่จะเก็บตัวอย่างปัสสาวะของสุนัขให้ตรวจดูภาชนะที่จะใส่ให้แห้ง และสะอาดเสียก่อนก่อนที่จะเก็บตัวอย่างปัสสาวะลงในภาชนะที่ปิดสนิทและสะอาด เมื่อถึงมือสัตว์แพทย์ แต่กระนั้นก็ตามสัตว์แพทย์อาจจะให้ภาชนะสำหรับบรรจุปัสสาวะของสุนัขโดยเฉพาะ แก่คุณเพื่อนำไปเก็บตัวอย่างก็ได้
              นี่ยังเป็นโอกาสที่ดี ที่คุณจะสามารถตรวจดูน้ำหนักของสุนัขด้วย ให้ถามจากสัตว์แพทย์หากพบว่าน้ำหนักไม่ตรงเสียทีเดียวนัก สัตว์แพทย์เขาจะให้คำแนะนำที่ถูกต้องแก่คุณเกี่ยวกับตารางการให้อาหารสำหรับ สุนัขด้วย
              เมื่อสุนัขนั้นอายุมากขึ้นและเค้าเคลื่อนไหว เชื่องช้าลงเค้าควรจะได้อาหารที่ให้พลังงานน้อยลงด้วย ในบางกรณีอย่างเช่นไตล้มเหลวและโรคหัวใจ จะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลง ส่วนสำคัญของอาหารด้วย สัตว์แพทย์อาจจะอาหารสำเร็จชนิดพิเศษกับคุณ หรือไม่เช่นนั้นก็อาจจะให้คำแนะนำกับคุณถึงวิธีการเตรียมอาหารชนิดพิเศษด้วย ตัวคุณเองที่บ้าน คุณก็ไม่ควรลืมขอคำแนะนำจากสัตว์แพทย์ด้วยหากว่าสุนัขของคุณนั้นไม่สามารถ กลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระได้ ซึ่งพบบ่อยว่าเป็นเรื่องสภาวะทางการแพทย์ที่สามารถเยียวยาได้ง่าย
              อุบัติเหตุ เรื่องนี้อาจจะเกิดขึ้นได้ในบางโอกาส เพราะสุนัขไม่สามารถที่จะลุกหรือไม่อยากลุกขึ้นจากที่นอนของเค้าหรือไปที่ ประตู บางครั้งก็อาจจะเกิดขึ้นเพราะการควบคุมประสาทในฝั่งของการทำงานของร่างกาย นั้นเสื่อมถอยลง ในกรณีเช่นนี้ วิธีการบำบัดนั้นจะยากขึ้นและไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซนต์
ข้อพิจารณาอื่นๆ
              เมื่อ สุนัขไม่ค่อยกระฉับกระเฉงเนื่องจากการมีอายุมาก เค้าอาจจะไม่วิ่งนำหน้าเราเหมื่อนอย่างที่เค้าเคยเป็นเมื่อตอนที่เค้ายัง หนุ่มแน่น คุณอาจจะต้องเปลี่ยนมาเป็นการพาเค้าเดินเคียงข้างกันไปแทน เกี่ยวกับเรื่องการออกกำลังในสุนัขที่มีอายุมากๆนี้ ให้คุณแวะเข้าไปเยี่ยมชมในหน้า การออกกำลัง

              ให้ คุณดูแลตัดแต่งขนของสุนัขที่มีอายุให้ดี การดูแลเค้าอย่างดีนี้จะช่วยให้เค้ามีความรู้สึกสบายตัวและมีสุขภาพที่ดี ด้วย การแปรงขนจะช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือดให้กับผิวหนังและยังจะช่วยให้ขน เค้าเป็นมันเงา ไม่พันกันอีกด้วย สำหรับเรื่องการอาบน้ำและการตัดแต่งขนสุนัข ให้คุณแวะเข้าไปเยี่ยมชมในหน้า การตัดการดูแลขนสุนัข
              ให้ ดูแลขนของสุนัขที่มีอายุมากๆให้ดี การดูแลเค้าเรื่องขนนี้จะช่วยให้เค้ารู้สึกสบายตัวและมีสุขภาพดีด้วย การแปรงขนจะช่วยให้ขนของเค้าเป็นมันเงาและไม่พันกัน การแปรงขนและแต่งขนสุนัขของคุณเป็นประจำนั้นก็จะทำให้คุณสามารถตรวจสอบขนของ เค้าจากอาการขนร่วงผิดปกติ พันกัน อาการคันต่างๆ และร่องรอยของพวกเห็บหมัดรวมทั้งปรสิตอื่นๆด้วย

              นอก จากนี้คุณจะยังทราบได้อีกว่าตรงไหนของเค้าที่โปนหรือนูนผิดปกติไป ไฝหรือเนื้องอก(ที่เกิดจากเนื้อเยื่อไขมัน) ในสุนัขที่มีอายุมากๆถือว่าเป็นปกติ และจะไม่สร้างปัญหาอะไรเว้นเสียแต่บริเวณที่เกิดนั้นจะก่อให้เกิดความเสีย หายต่อโครงสร้างอื่นๆ (อย่างเช่น บริเวณหนังตาเป็นต้น) หรือไม่เช่นนั้นก็อาจสร้างความไม่สบายตัวให้เกิดขึ้นหรือเป็นแผลได้ง่าย

              ต้อง รีบพาเค้าไปให้สัตว์แพทย์ทำการตรวจ หากคุณพบว่าเนื้อส่วนไหนของเค้านั้นโปนหรือนูนขึ้นมาอย่างผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตรงที่เนื้อส่วนนั้นเกิดโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และให้เช็คดูที่เล็บของเค้าให้เป็นประจำด้วย ให้คุณให้ความสนใจกับนิ้วเล็บส่วนที่เกินขึ้นมาของเค้าเป็นพิเศษ นิ้วเล็บส่วนเกินนี้จะอยู่ด้านข้างของขา แต่จะไม่อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำจนสามารถสัมผัสกับพื้นดินได้ นิ้วหรือเล็บนี้โดยปกติจะไม่หลุดออกจากขาของสุนัขไป บางครั้งพบว่าเล็บเหล่านี้โตเพิ่มขึ้นในลักษณะโค้งงอเข้าไปหานิ้วซึ่งหาก เป็นอย่างนี้จะสร้างความเจ็บปวดให้กับสุนัขได้อย่างมากมาย
              สำหรับ เรื่องเล็บที่ปกตินั้น คุณสามารถตัดเล็บให้สุนัขของคุณได้ด้วยตัวเอง แต่หากคุณยังไม่คุ้นเคยกับการตัดเล็บให้สุนัข ก็ให้พาไปให้สัตว์แพทย์หรือช่างที่ตัดแต่งขนสุนัขซึ่งเขาจะมีความชำนาญใน เรื่องนี้จัดการให้ ส่วนเรื่องปากและฟันนั้นให้คุณหมั่นเช็คช่องปากและฟันรวมทั้งเหงือกของสุนัข ของคุณเป็นระยะๆ หากคุณพบคราบหินปูนสีน้ำตาลเกาะอยู่ตามฟันของเค้า หินปูนเหล่านั้นจะเป็นสาเหตุของกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์ และเป็นสาเหตุของโรคเหงือกรวมทั้งการติดเชื้อต่างๆ และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันสุนัขหลุดออกจากปากในที่สุด
              สัตว์ แพทย์ของคุณจะสามารถช่วยขูดหินปูนที่เกาะอยู่นี้รวมทั้งถอนฟันที่โยกแล้วให้ หลุดออกไปได้ ในการนี้สัตว์แพทย์อาจจะต้องทำการวางยาสลบซึ่งเป็นขั้นตอนปกติให้กับสุนัข แต่จะดีกว่ามากหากได้มีการป้องกันหรือลดการเกิดโรคทางเหงือกของเค้าให้น้อย ลงมากๆด้วยการให้อาหารแข็งๆให้เค้าทานบ้าง และให้จัดเป็นส่วนหนึ่งสำหรับอาหารที่เค้าจะต้องกินไปตลอดชีวิต นอกจากนี้การหมั่นแปรงฟันให้กับสุนัขเป็นประจำโดยใช้แปรงสีฟันที่ผลิตขึ้นมา ให้ใช้กับสุนัขโดยเฉพาะรวมทั้งยาสีฟันก็เป็นส่วนที่สามารถช่วยได้มาก หากไม่มีแปรงสีฟันก็ให้ใช้ผ้านุ่มๆหรือสำลีหมาดๆแตะกับผงฟูแทนก็ได้
เมื่อวาระสุดท้ายใกล้จะมาถึง
              การ ตัดสินใจที่จะพาสุนัขตัวอื่นเข้ามาในบ้านก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่าง รอบคอบด้วยเช่นกัน มีเจ้าของหลายๆคนพบว่าลูกสุนัขตัวใหม่เข้ามาในบ้านนั้น บางทีจะเป็นการต่ออายุให้กับสุนัขที่มีอายุมากๆ ถึงแม้ว่าคุณจะมีความรู้สึกว่าเค้าของคุณจะมีใครใหม่มาแทนที่ไม่ได้ก็ตาม แต่การมีสุนัขที่เด็กกว่าวิ่งเล่นอยู่รอบๆจะทำให้สุนัขที่มีอายุมากๆนั้นได้ เพื่อนจะเป็นการง่ายมากยิ่งขึ้นสำหรับวันนั้นที่จะมาถึง ในฐานะที่คุณเป็นเจ้าของสุนัข ช่างเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดว่าคุณอยากจะให้เค้าหลับไปเลยดีหรือเปล่า แต่ก็หวังไว้ว่า เมื่อเวลานั้นมาถึงเค้าจะจากไปอย่างสงบขณะที่เค้าหลับในที่นอนอันแสนสุขของ เค้า เพราะในความจริงยังมีสุนัขอีกหลายๆตัวที่ไม่มีโอกาสเช่นนั้น
              สำหรับ สุนัขที่มีคุณภาพชีวิตไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เพราะต้องทนทุกข์จากอาการเจ็บป่วยหรือ เจ็บปวดมาตลอดเวลา ซึ่งเป็นการยุติธรรมแล้วสำหรับเค้าที่เราจะตัดสินใจให้ความเจ็บป่วยหรือเจ็บ ปวดนั้นสิ้นสุดลงโดยเร็วที่สุด เรื่องอย่างนี้คุณต้องหารือกับสัตว์แพทย์ด้วยความรอบคอบมากๆ และทั้งสองฝ่ายจะต้องเห็นพ้องด้วยกันว่าการให้เค้าตายนั้นเป็นการดีที่สุด สำหรับเค้าแล้ว แล้วให้สัตว์แพทย์ล่วงรู้ด้วยว่าคุณรู้สึกอย่างไรเพื่อที่ว่าจะได้ไม่เข้าใจ กันผิดความหมาย
              ในสุนัขนั้น การให้เค้าตายมีความหมายถึงการฉีดยาไม่ให้เค้าเจ็บปวดอีกต่อไป ซึ่งจะบังเกิดผลภายในไม่กี่วินาทีเพื่อส่งให้เค้าหลับไป การที่คุณสูญเสียเพื่อนคู่หูไปนั้นมันยากที่จะทานทนได้ และมันก็ยากที่จะยอมรับว่าสุนัขของคุณไม่สามารถอยู่กับคุณไปได้ตลอด แต่คุณสามารถทำให้ดีที่สุดได้ ด้วยการอดทนและดูแลเค้าให้ดี เพื่อทำให้ปีท้ายๆของเค้านั้นมีความสุขสบาย และสนุกสนานมากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้

วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การเลือกสัตวแพทย์

การเลือก สัตว์แพทย์ให้ถูกต้องก็เป็นเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญมากที่สุด ที่คุณจะทำเพื่อสุนัขของคุณได้ เพื่อช่วยให้เค้ามีอายุยืนและมีสุขภาพดี สัตว์แพทย์นั้นควรจะเป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญทางด้านเทคนิค มีความรู้เกี่ยวกับ เทคนิคหรือวิธีการรักษาแบบใหม่ๆ และมีความมุ่งมั่นอย่างอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ที่จะช่วยสุนัขของคุณไปจนกว่า เค้าจะหายป่วย คุณจะต้องมั่นใจว่าสัตว์แพทย์สามารถอธิบายให้่คุณสามารถเข้าใจได้ และสามารถตอบคำถามของคุณได้ด้วย เพื่อที่คุณจะสามารถรับผิดชอบในการตัดสินใจสำหรับสุนัขของคุณได้ ลำดับต่อไปจะเป็นวิธีง่ายๆสำหรับการเลือก สัตว์แพทย์
จะหาสัตว์แพทย์ได้อย่างไร
              หนึ่ง ในสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกสัตวแพทย์คือต้องเลือกคนที่คุณไว้ใจ เพราะสุนัขของคุณ บอกคุณไม่สามารถพูด บอกคุณได้ว่าเค้ารู้สึกอย่างไรและคุณก็จะไม่มีเวลามาเฝ้าได้ตลอดเวลาว่าหมอ ทำอะไรกับสุนัขของคุณหลังจากที่คุณเดินกลับออกจากคลินิกไปแล้ว ลองถามจากเพื่อนๆ เพื่อนบ้านที่อยู่ในละแวกเดียวกัน หรือเพื่อนร่วมงานเพื่อหาคำแนะนำที่ดีที่สุด คนรักสัตว์คนอื่นๆจะช่วยบอกคุณได้ว่าสัตว์แพทย์คนไหนที่มีความรู้ความสามารถ มีเมตตา และทำงานหนักเพื่อรักษาสัตว์ ทุกตัวให้หายจากไม่สบาย
คำถามแบบไหนที่จะใช้ประเมินความสามารถของสัตว์แพทย์ว่าเพียงพอแก่การรักษาหรือไม่
              คุณ ควรพาสัตว์เลี้ยงของคุณไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์หรือเปล่า? ควรเลือกสถานที่รักษาให้เหมาะกับสัตว์เลี้ยง ของคุณ เช่น ไม่ควรพาสุนัขไปรักษาตามคลินิคที่เชี่ยวชาญแต่การรักษานกหรือสัตว์เลื้อย คลาน
              คลีนิคหรือโรงพยาบาบแห่งนั้นตั้งอยู่ในที่ที่คุณไป มาสะดวกไหม เวลาเปิดทำการของเขาตรงกับเวลาว่างของคุณ หรือไม่ ถ้าคุณไม่ค่อยมีเวลา พยายามหาร้านที่เปิดในช่วงเย็นหรือวันเสาร์อาทิตย์ โรงพยาบาลสัตว์ใหญ่ๆมักจะเปิดทำการ 24 ชั่วโมง

              พนักงาน อื่นๆในคลินิกหรือโรงพยาบาลเหล่านั้นพอจะมีความรู้และให้การช่วยเหลืออะไร บ้างหรือเปล่า? ดูให้แน่ว่าผู้ช่วยสัตว์แพทย์ในคลินิกแห่งนั้นๆรู้งาน หรือมีการตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างไรหรือไม่ พนักงานได้รับการฝึกฝนอย่างถูกวิธีและมีเครื่องมือแพทย์ระดับมืออาชีพไว้รอง รับการใช้งานหรือไม่
              สัตว์แพทย์ที่คุณพาสุนัขไปรับการ รักษา จะแนะนำให้คุณพาสุนัขไปพบผู้ชำนาญการเฉพาะทางเพราะสภาพอาการ ของเค้าต้องการการรักษาเช่นนั้นหรือไม่? ทุกวันนี้ผู้ชำนาญเฉพาะทางเกี่ยวกับสัตว์ก็มี ผู้ชำนาญทางด้านวิสัญญี ทางด้าน พฤติกรรมสัตว์ ทางด้านโรคหัวใจ ทันตแพทย์ ทางด้านผิวหนัง ทางด้านการดูแลเหตุการณ์ฉุกเฉินและเร่งด่วน ทางด้าน การใช้ยารักษาภายใน ทางด้านประสาท ทางด้านเนื้องอก ทางด้านจักษุ การฉายรังสี และศัลยกรรม แต่ละสายงานที่ว่ามานี้ ล้วนแล้วแต่ต้องมีใบรับรองการประกอบวิชาอาชีพพิเศษ เกินกว่าที่จะมีแค่ใบประกอบโรคศิลป์เช่นสัตว์แพทย์ธรรมดาใบเดียว

              ที่ ว่ามาทั้งหมดข้างต้นน่าจะเป็นส่วนช่วยให้คุณสามารถเลือกสัตว์แพทย์ให้สุนัข ของคุณได้ ต้องมั่นในว่าเขาคือคน ที่คุณสามารถปรึกษา ถามคำถามและถามค่ารักษาพยาบาลได้ สิ่งสำคัญคือคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การดูแลพิเศษสำหรับสุนัขที่มีอายุมากๆ

สุนัขที่มี อายุมากๆนั้นจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ร่างกายเค้าจะเชื่องช้าขึ้น และเริ่มเสื่อมไปตามเวลาที่ผ่านไป สุนัขที่มีช่วงอายุที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ รวมทั้งองค์ประกอบอื่นๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ถ้าเขาได้เริ่มต้นชีวิตที่ดีได้รับการดูแลที่ถูกต้องรวมทั้งโภชนาการตั้งแต่ ตอนเป็นลูกสุนัขจะเป็นการเกื้อหนุนระยะยาวให้สุนัขนั้นมีชีวิตที่กระหรี้ กระเปร่าไปจนกระทั่งเค้ามีอายุมากๆ
              เนื่องจากคุณอยู่กับ เค้าทุกวันๆ คุณอาจจะไม่ได้สังเกตเห็นว่าเขาเริ่มมีอายุขึ้น แต่อย่างไรก็ดีเมื่อเค้าอายุประมาณ 6-7 ปีก็นับว่าเค้าเข้าสู่ช่วงอายุมากแล้ว สุนัขพันธุ์ใหญ่ๆจะเรียกว่าอายุมากได้ก็เมื่อเค้ามีอายุประมาณ 8 ปี ขึ้นไป ส่วนสุนัขพันธุ์เทอร์เรีย และสุนัขพันธุ์ผสมทั้งหลายจะมีชีวิตอยู่ได้ถึง 15 ปีหรือมากกว่านั้น ต่อไปนี้จะเป็นแนวทาง สำหรับคุณว่าคุณจะทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยให้สุนัขที่มีอายุเยอะๆแล้วนี้ได้ รับความสุขและความสบายเมื่อเค้าอยู่ในช่วงอายุมากๆได้

เชื่องช้าลง
              เมื่อ สุนัขของคุณมีอายุมากขึ้น เค้าจะไม่ค่อยกระฉับกระเฉงนัก รวมทั้งอวัยวะต่างๆในร่างกายก็จะมีประสิทธิภาพ ลดน้อยถอยลงไป เค้าจะไม่สามารถรับมือกับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆหรือความเครียดอื่นๆที่มารุม เร้าได้เหมือนเก่า ดังนั้นเราควรป้องกัน ให้เค้ามีโรคหรือความเครียดนี้น้อยที่สุด
              คุณเองก็ต้องมี ความอดทนกับเรื่องนี้ด้วย เค้าเริ่มจะเชื่องช้าลง จะไม่สามารถได้ยินหรือเห็นได้ดีเหมือนกับสมัยที่เค้า ยังหนุ่มยังสาวอยู่ ถ้าเค้าไม่ได้สนองตอบต่อคุณเมื่อคุณเรียกหรือสั่ง ก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าตั้งใจที่จะไม่สนใจหรือละเลยคุณ!
การออกกำลัง
              พบ บ่อยที่เจ้าของสุนัขพาสุนัขไปออกกำลังแล้วสุนัขออกกำลังได้ช้าลงเพราะอายุ มากขึ้น แทนที่เค้าจะวิ่งนำหน้าคุณ ได้เรื่อยๆเหมือนที่เค้าเคยทำได้ในวัยหนุ่มวัยสาว พอตอนนี้กลับต้องเดินเรียบๆเคียงข้างกับคุณไปแทน เค้าจะเหนื่อยง่ายมาก ตามข้อต่อของเค้าก็จะฝืดขึ้นและเค้าก็จะมีอาการปวดกล้ามเนื้อแบบเดียวกันกับ คนที่มีอายุเขาเป็นกัน
              สุนัขที่มีอายุมากๆนั้นสายตาจะ เสื่อมลง เช่นเดียวกับหูและการรับความรู้สึกต่างๆ รวมทั้งการดมกลิ่นที่ไม่ดี เหมือนก่อนด้วย ดังนั้นเค้ามักจะเดินหันออกไปอีกทางและหายตัวไปได้ง่ายๆหากพลัดหลงกับเจ้า ของ แต่คุณต้องคอยดูอย่าให้เค้าไปไกลจากคุณนักเวลาพาเค้าออกไปเดินเล่น
              ถึง แม้ว่าเค้าจะไม่ค่อยกระฉับกระเฉงแล้วก็ตาม คุณก็ยังควรพยายามให้เค้าได้ออกกำลังในระดับปานกลางไปเรื่อยๆ การทำเช่นนี้จะช่วยปรับปรุงระบบการไหลเวียนของเลือด และให้ข้อต่อต่างๆในตัวได้มีการเคลื่อนไหวเสมอๆ และหมั่นดูแลให้ เค้าได้รับอาการบริสุทธิ์ที่เพียงพอด้วย ให้พาเค้าไปออกเดินเป็นเวลาสั้นๆ แล้วหยุดพักเป็นระยะ แต่อย่าไปบังคับให้เค้าฝืน ออกกำลังมากจนเกินความสามารถ หากเป็นช่วงเวลาที่ฝนตกคุณจะต้องเช็ดตัวเค้าให้แห้งหลังจากที่คุณพาเค้ากลับ มาถึงบ้าน อย่าพาเค้าออกไปเดินข้างนอกเวลาที่อุณหภูมิไม่เป็นใจด้วยและอย่าให้เค้าอยู่ ข้างนอกนานนัก
การแต่งขน
              ให้ ดูแลขนของสุนัขที่มีอายุมากๆให้ดี การดูแลเค้าเรื่องขนนี้จะช่วยให้เค้ารู้สึกสบายตัวและมีสุขภาพดีด้วย การแปรงขนจะช่วยให้ขนของเค้าเป็นมันเงาและไม่พันกัน การแปรงขนเป็นประจำนั้นก็เป็นโอกาสให้คุณสามารถ ตรวจสอบขนของเค้าว่ามีอาการขนร่วงผิดปกติ พันกัน อาการคันต่างๆ และร่องรอยของพวกเห็บหมัดรวมทั้งปรสิตอื่นๆด้วย ลองลูบผิวหนังเขาดูว่ามีตรงไหนที่โปนหรือนูนผิดปกติหรือเปล่า ไฝหรือเนื้องอก(ที่เกิดจากเนื้อเยื่อไขมัน) ในสุนัขที่มีอายุมากๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่พบบ่อยและจะไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรเว้นเสียแต่บริเวณที่ เกิดนั้นจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างอื่นๆ (อย่างเช่น บริเวณหนังตาเป็นต้น) หรือไม่เช่นนั้นก็อาจสร้างความไม่สบายตัวให้เกิดขึ้นหรือเป็นแผลได้ง่าย พาเค้าไปให้สัตว์แพทย์ตรวจหากคุณพบว่าเนื้อส่วนไหนบวมและโตเร็วผิดปกติ
              ตรวจ ดูที่เล็บของเค้าให้เป็นประจำด้วย โดยเฉพาะนิ้วเล็บส่วนที่เกินขึ้นมาด้านข้าง เพราะเล็บส่วนจะไม่อยู่ในตำแหน่ง ที่ต่ำพอจะสามารถสัมผัสกับพื้นดินได้ จึงไม่ถูกับพื้นจนสั้นลงไปเอง บางครั้งพบว่าเล็บเหล่านี้ยาวขึ้นในลักษณะโค้งงอ เข้าไปหานิ้วซึ่งหากเป็นอย่างนี้จะสร้างความเจ็บปวดให้กับสุนัขได้ คุณสามารถตัดเล็บให้สุนัขของคุณได้ด้วยตัวเอง แต่หากคุณยังไม่คุ้นเคยกับการตัดเล็บให้สุนัข ก็ให้พาไปให้สัตว์แพทย์หรือช่างที่ตัดแต่งขนสุนัขซึ่งเขาจะมีความชำนาญ ในเรื่องนี้จัดการให้
              หมั่นเช็คช่องปากและฟันรวมทั้ง เหงือกของสุนัขของคุณเป็นระยะๆ คราบหินปูนสีน้ำตาลที่เกาะอยู่ตามฟันจะเป็น สาเหตุของกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์ โรคเหงือกรวมทั้งการติดเชื้อต่างๆ และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันหลุดออกจากปากในที่สุด

              สัตว์ แพทย์ของคุณจะสามารถช่วยขูดหินปูนที่เกาะอยู่นี้รวมทั้งถอนฟันที่โยกแล้วให้ หลุดออกไปได้ ในการนี้สัตว์แพทย์อาจจะต้องทำการวางยาสลบซึ่งเป็นขั้นตอนปกติให้กับสุนัข แต่จะดีกว่าหากคุณสามารถป้องกันหรือลด การเกิดโรคทางเหงือกของเค้าให้น้อยลงมากๆด้วยการให้อาหารแข็งๆให้เค้าทาน บ้าง เช่น อาหารสุนัขชนิดเม็ด นอกจากนี้การหมั่นแปรงฟันให้กับสุนัขเป็นประจำโดยใช้แปรงสีฟันที่ผลิตขึ้นมา ให้ใช้กับสุนัขโดยเฉพาะ รวมทั้งยาสีฟันก็เป็นส่วนที่สามารถช่วยได้มาก หากไม่มีแปรงสีฟันก็ให้ใช้ผ้านุ่มๆหรือสำลีหมาดๆแตะกับผงฟูแทนก็ได้
สร้างความสบายให้กับสุนัข
              เนื่อง มาจากสุนัขที่อยู่ในช่วงชีวิตเช่นนี้จะมีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อย เค้าจะใช้เวลาส่วนใหญ่นอนอยู่ตามที่ใดที่หนึ่ง ดูให้ดีว่าเค้าไม่ได้นอนบนพื้นที่เย็น ชื้น หรือในที่ที่รับความร้อนจากแสงแดดโดยตรง ให้คุณดูแลที่นอนของเค้าให้อบอุ่น เรียบและรองให้นุ่มด้วยเบาะ หากเค้านอนนานๆบนพื้นที่แข็งเกินไป และถ้าเขามีน้ำหนักมาก ก็อาจจะก่อให้เกิดหนังด้าน ตรงส่วน ฃที่กระดูกกดทับอย่างเช่นตรงข้อศอกหรือข้อเท้าของเค้า อันเป็นสาเหตุให้เกิดแผลและติดเชื้อได้
              อย่าลืมว่าสุนัข ในวัยนี้จะมีสายตา การได้ยินและประสาทรับความรู้สึก ที่ไม่ดีอย่างที่เค้าเคยเป็น และเค้าก็อาจจะไม่ค่อยว่าง่ายสักเท่าไหร่นัก ที่คุณจะช่วยเค้าได้ก็คือพยายามอย่าเปลี่ยนแปลงบ้านหรือสิ่งที่เค้าจะต้องทำ เป็นประจำ พยายามอย่าไปห่างจากเค้านานๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในที่ที่เขาไม่คุ้นเคย
การให้อาหารสุนัขที่มีอายุมากๆ
              เนื่อง จากว่าสุนัขของคุณจะค่อยๆมีความกระฉับกระเฉงลดลงเรื่อยๆเมื่อเค้ามีอายุมาก ขึ้น ดังนั้นพลังงานที่เค้าจะใช้ ก็ลดลงไปด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้เราจึงจำเป็นที่จะต้องลดปริมาณอาหารที่ให้เค้ากินลงเพื่อทำ ให้สุนัขของคุณเค้ามีน้ำหนักที่พอเหมาะ น้ำหนักที่มากเกินไปจะทำให้การทำงานของหัวใจ รวมทั้งปอด กล้ามเนื้อ และบรรดาข้อต่อต่างๆทำงานหนัก และเหนื่อยมากขึ้น ด้วย สุนัขที่อ้วนนั้นมักจะมีอายุที่สั้นกว่าปกติ
การพาเค้าไปตรวจกับสัตว์แพทย์เป็นประจำ
              การ ฉีดวัคซีนกระตุ้นประจำปีสำหรับสุนัขนั้นเป็นเรื่องสำคัญและสำคัญมากพอๆกัน ไม่ว่าจะเป็นสุนัขที่อยู่ใน วัยหนุ่มสาว หรือวัยสูงอายุ ในสุนัขที่อายุมากๆนั้นจะมีภูมิต้านทานต่อโรคต่ำลงและไม่สามารถต่อสู้กับการ ติดเชื้อได้ดีนัก ดังนั้นการนัดหมายเพื่อฉีดวัคซีนสำหรับสุนัขนั้นก็เป็นการดีที่คุณจะได้ให้ สัตว์แพทย์ได้ตรวจร่างกายสุนัขเป็นประจำด้วย (สุนัขบางตัวอาจจะต้องการการตรวจร่างกายที่บ่อยขึ้น) และสัตว์แพทย์ยังสามารถจะประเมินสุขภาพของอวัยวะสำคัญต่างๆ เช่นผิวหนัง หัวใจ ไต และตับด้วย

วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

หมั่นดูแลให้สุนัขของคุณกระฉับกระเฉงและมีสุขภาพดีอยู่เสมอ

สุนัขทุกตัวควรจะต้องออกกำลัง กายเป็นประจำทุกวัน สุนัขซึ่งอายุไม่เท่ากันและมีสภาพร่างกายต่างกันก็จะต้องการ การออกกำลังกายไม่เหมือนกัน
              หาก เค้ากำลังเป็นลุกสุนัขอยู่ การวิ่งเล่นไปมาหรือการเดินสำรวจพื้นที่แปลกใหม่รอบตัวเสียจนเหนื่อย ก็เป็นการออกกำลังกายมากเพียงพออยุ่แล้ว กระดูกของลูกสุนัขนั้นยังอยู่ในสภาวะของการเจริญเติบโตและยังไม่แข็งมากนัก ข้อต่อกระดูกก็ไม่แข็งแรงเหมือนกับตอนที่เค้าโตเต็มที่แล้ว จึงไม่ควรให้ลูกสุนัขของคุณเค้าออกกำลัง หรือออกไปเล่นทันที หลังจากที่เค้ากินอาหารเสร็จใหม่ๆ ปกติแล้วลูกสุนัขจะหลับหลังจากที่กินอาหารเสร็จ ดังนั้นควรปล่อยให้เค้าเล่นหรือออกกำลัง เมื่อเค้าอยากและให้หยุดเล่นเมื่อเค้าอยากหยุดเท่านั้น
              ส่วน สุนัขที่เป็นวัยรุ่นหรือเริ่มโตขึ้นมาแล้ว สุนัขในอายุขนาดนี้ต้องการความช่วยเหลือจากคุณในการรักษาน้ำหนักตัว ไม่มากนักและสำหรับสุนัขที่มีอายุมากนั้น การออกกำลังแต่พอสมควรไม่ใช่เพียงเพราะต้องการควบคุมน้ำหนักให้เค้าเท่านั้น แต่จะเป็นการช่วยเค้าให้มีความกระฉับกระเฉงอยู่เสมอด้วย หากว่าสุนัขของคุณนั้นเริ่มอ้วนแล้ว ยิ่งควรจะต้องพาเค้าออกไปเดิน วิ่งหรือเล่นเกมส์อื่นๆบ้าง อย่างไรก็ดีให้พาสุนัขของคุณไปหาสัตว์แพทย์ก่อน และให้สัตว์แพทย์ตรวจสุขภาพสุนัขของคุณ อย่างละเอียด ขอคำปรึกษาสำหรับการนำสุนัขไปออกกำลังเพิ่มเติมด้วย
              เมื่อ เริ่มต้นให้คุณพาเค้าออกกำลังช้าๆ แล้วเพิ่มความเข้มของการออกกำลังขึ้นเป็นลำดับ ให้สังเกตดูว่าเขาเหนื่อยหอบ หรือไม่ ให้หยุดเมื่อเห็นเขาเหนื่อยมากเกินไป ให้เริ่มต้นที่ 10 นาทีก่อน แล้วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็นสัก 30 นาที ทำอย่างนี้สักหลายๆวัน หรือยืดเวลาออกไปสักหลายสัปดาห์ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความหนักหนาของความอ้วนของเค้า และอย่าลืมว่าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ก็ต้องให้เค้ารักษารูปร่างต่อเนื่องกันด้วย
              สำหรับหลายต่อ หลายคน ช่วงวันหยุดก็มักจะเป็นเวลาที่เราจะเอนหลัง พักผ่อน และอิ่มอร่อยกับอาหารชั้นเลิศ และอ้วนเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน และสุนัขของคุณก็อาจมีน้ำหนักเพิ่มด้วยเช่นกัน แม้บางคนพาสุนัขออกกำลังเสียดิบดี และควบคุมอาหารเป็นพิเศษเพื่อลดน้ำหนัก แต่พอถึงวันหยุดสุดสัปดาห์กลับเผลอใจอ่อนให้อาหารที่เหลือจากบนโต๊ะ ซึ่งเป็นอาหารนอกเหนือจากที่ควบคุมแก่สุนัข แถมยังมีข้ออ้างร้อยแปดที่จะไม่พาสุนัขออกไปข้างนอกเพื่อออกกำลัง

              สุนัข มักจะเลียนแบบนิสัยที่ไม่ดีของเจ้านายเค้าได้ง่ายเสียด้วยสิ นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เจ้าของที่อ้วน สุนัขของเขาก็มักจะ อ้วนเหมือนเจ้าของ มันอาจจะยากที่จะห้ามใจไม่ให้อาหารรสเลิศในช่วงเทศกาลกับสุนัขผู้ซึ่งเป็น เพื่อนที่แสนดีของคุณ อย่างไรก็ดีหากคุณรู้สึกว่ามันยากเสียเหลือเกินที่จะออกกำลัง คุณก็จะต้องเข้มงวดกับการให้อาหารสุนัข โดยจะต้องให้อาหาร แบบธรรมดากับเค้า เพราะไม่เพียงอาหารที่เหลือจากบนโต๊ะจะสร้างปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารให้ กับสุนัข แต่มันยังจะเป็นตัวเร่งให้น้ำหนักตัวของสุนัขของคุณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกด้วย