วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์

ความเป็นมา ลาบ ราดอร์ รีทรีฟเวอร์ มีต้นตระกูลอยู่ที่ Newfoundland ชายฝั่งทะเล ประเทศแคนาดา และในช่วงต้นศตวรรษที่19 ได้มีการนำสุนัขพันธุ์นี้ไปยังประเทศอังกฤษทางเรือประมง และต่อมาก็ได้มี การพัฒนาสายพันธุ์และเลี้ยงขึ้นมาในฐานะสุนัขล่าเหยื่อ และยังถูกใช้เป็นสุนัขกู้ภัยแม้ในภูมิประเทศที่ขรุขระ และพื้นน้ำแข็งด้วย ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความอดทน เข้มแข็ง มีความสามารถในการดมกลิ่นดีเยี่ยม และยังมีความปรารถนาจะเอาใจผู้อื่นอีกด้วย
ช่วงชีวิตเฉลี่ย ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ มีช่วงชีวิตระหว่าง 12-15 ปี
ขนาดและน้ำหนักเฉลี่ย 55 ซม. ถึง 57 ซม.,30 กก. ถึง 45 กก.
อุปนิสัยประจำพันธุ์/ลักษณะประจำพันธุ์/อารมณ์ สุนัขพันธุ์ ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ เป็นสุนัขที่ฉลาดหลักแหลม กระตือรือร้น รักสนุก ช่างเอาอกเอาใจเป็นสายพันธุ์ที่เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กประกอบกับการที่เป็นสุนัขเฝ้ายามที่ดีเนื่องจากมีเสียงเห่าทุ้มและ หนักแน่น เป็นที่น่าเกรงขามเพื่อเตือนเมื่อมีผู้บุกรุก
ความเข้ากันได้กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เหมาะมากสำหรับการเข้ากับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น
ความต้องการการเอาใจใส่ดูแล สำหรับสุนัขพันธุ์ นี้ ต้องมีคอกที่ใหญ่และมีรั้วสูงล้อมรอบ ในฤดูร้อนก็ควรมีพื้นที่มีร่มเงาสำหรับสุนัขพันธุ์นี้ด้วย เช่นเดียวกับสุนัขทั่วไป พวกเขาจะมีความสุขมากกว่าหากมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง สำหรับสุนัขที่โตแล้ว ควรให้เขาเดินได้วันละ 30 นาที จะทำให้พวกเขา
แข็ง แรง ในขณะที่สำหรับลูกสุนัข จะใช้เวลาในการเล่นทั้งวัน สำหรับผู้ที่คิดจะเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้บ้านของคุณควรมีบริเวณสนามหลังบ้าน ไว้ให้พวกเขาได้วิ่งเล่น และพวกเขายังเป็นจอมเคี้ยวและจอมขุดตัวยงอีกด้วย ถ้าคุณอยากให้สวนของคุณ สวยเหมือนเดิม ให้เตรียมกั้นรั้วไว้ว่าบริเวณไหนที่คุณจะอนุญาติให้เขาเล่นได้ เนื่องจากสุนัขพันธุ์นี้จะอ้วนง่ายเวลาที่มีอายุมากขึ้นซึ่งสามารถก่อให้ เกิดปัญหาด้านสุขภาพ ดังนั้นจึงควรดูแลอาหารการกินที่มีปริมาณและคุณค่าทางอาหารเหมาะสมตามวัยของ สุนัข
ข้อควรจำ ผู้เพาะพันธุ์ซึ่ง เอาใส่ใจ จะพาสุนัขไปตรวจสุขภาพประจำปี และเอกซ์เรย์เพื่อตรวจสอบว่ามีปัญหาเรื่องโรค กระดูกข้อสะโพกหลุดหรือกระดูกอ่อนหรือไม่ การตรวจพบตั้งแต่ช่วงเริ่มแรก จะทำให้รักษาได้ผลดีกว่า
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม ลูกสุนัขพันธุ์ ลาบราดอร์ จะร่าเริงและควบคุมได้ยากสำหรับสมาชิกในครอบครัวซึ่งเป็นเด็กเล็ก หรือผู้สูงอายุ และเจ้าของสุนัขพันธุ์ควรมีสนามหลังบ้านซึ่งมีรั้วรอบขอบชิดอีกด้วย

ยอร์กไชร์ เทอร์เรียร์

ความเป็นมา ยอร์กไชร์ เทอร์เรียร์ ได้รับ การพัฒนาราวๆ ช่วงกลางของศตวรรษที่ 19 โดยการผสมข้ามสายพันธุ์เทอร์เรียร์ ที่แตกต่างกันหลายๆ สายที่มีในช่วงนั้น โดยเกิดขึ้นที่ตอนกลางถึงตอนเหนือของประเทศอังกฤษ โดยเฉพาะในเมือง ยอร์คไชร์ จนเป็นที่มาของชื่อ ยอร์กไชร์ เทอร์เรียร์ยอร์กไชร์เทอร์เรียร์ ในช่วงแรกหนักถึง 6 กก. และถูกใช้เช่นเดียวกับสายพันธุ์ เทอร์เรียร์ อื่นๆ เพื่อกำจัดหนู เวลาต่อมา ผู้เพาะพันธุ์ที่ผลิตสายพันธุ์ที่เล็กกว่าสวยกว่า เพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงในครอบครัวและเพื่อการประกวดมากกว่าเป็นสุนัขล่าหนู
ช่วงชีวิตเฉลี่ย บางครั้ง ยอร์กไชร์ เทอร์เรียร์ สามารถมีชีวิตถึง 16 ปี หรือบางตัวอาจนานกว่านั้น
ขนาดและน้ำหนักเฉลี่ย 1 - 5.4 กก.
ความเข้ากันได้กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ โดยทั่วไป ยอร์กไชร์ เทอร์เรียร์ อยู่ร่วมกับสายพันธุ์อื่นๆ ได้อย่างมีความสุข หากเป็นสุนัขที่มีขนาดเท่าๆกัน
ความต้องการการเอาใจใส่ดูแล ขนของ ยอร์กไชร์ เทอร์เรียร์ โดยทั่วไปจะยาวถึงพื้นจึงจำเป็นต้องแปรงขนประมาณ 1 ชั่วโมงทุกๆ 2 วันเพื่อไม่ให้ขนพันกันยุ่ง ควรผูกรวบขนบนหัวไว้ไม่ให้ตกมาบริเวณตาของ
สุนัข แต่ถ้าไม่ต้องการยุ่งยากมากนักก็เพียงแต่ตัดขนให้สั้นก็ได้ พวกเขาจะมีความสุขมากถ้าพาเขาไปเดินเล่นหรือปล่อยให้วิ่งเล่นในสวนหลังบ้าน
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม ยอร์กไชร์ เทอร์เรียร์ เหมาะสำหรับคนทุกช่วงอายุ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีเด็กก็ตาม แต่ถ้ามีเด็ก เด็กต้องได้รับคำแนะนำถึงวิธีการปฏิบัติต่อสุนัข และไม่ควรปล่อยให้อยู่กับสุนัขโดยไม่มีผู้ใหญ่ดูแล สิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อคุณเลี้ยง ยอร์กไชร์ เทอร์เรียร์ คือคุณมีเวลาเพียงพอที่จะดูแลเขาหรือไม่ เช่นเดียวกับสุนัขส่วนมากคือการทิ้งให้อยู่ลำพังเป็นเวลานานจะไม่ดีกับอารมณ์ของ ยอร์กไชร์ เทอร์เรียร์ เลย และถ้าทุกๆ คนในบ้านจะต้องไม่อยู่บ้านตลอดทั้งวันแล้วล่ะก็ จะดีมากที่สุดถ้าเลี้ยงสุนัขไว้ 2 ตัวเพื่อให้อยู่เป็นเพื่อนกัน
ทิ้งท้าย ถ้าคุณต้องการรู้เกี่ยวกับ ยอร์กไชร์ เทอร์เรียร์ มากขึ้น คุณสามารถติดต่อสมาคมพัฒนา
พันธุ์สุนัขแห่งประเทศไทย

ไวท์ เทอร์เรียร์

ความเป็นมา เวสต์ ไฮแลนด์ ไวท์ เทอร์เรีย์ หรือ"เวสตี้" เป็นสุนัขที่น่ารัก อย่ในกลุ่มสุนัขพันธุ์เล็ก ประจำชาติสกอตแลนด์ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของ เวสตี้ และยัง มีสกอตทิช เทอร์เรีย์ และเครนเทอร์เรีย์ รวมอย่ด้วยจนกระทั่งต้นศตวรรษที่19 เทอร์เรีย์ที่มีสีขนที่ค่อนข้างเข้ม จนแยกไม่ออกระหว่าง เทอร์เรีย์ สีน้ำตาลกับสุนัขจิ้งจอก จึงทำให้นายพรานยงพลาดไปโดน เทอร์เรีย์บ่อย สุนัขพันธุ์นี้จึงไม่เหมาะที่จะใช้ในการล่าสัตว์ดังนั้นลูกสุนัขที่มีสีสว่างที่สุดในครอกจะถูกเก็บไว้เพื่อหลีกเลี่ยงการยิงพลาดไปโดนสุนัขโดย ไม่เจตนาเทอร์เรีย์สีขาวเหล่านี้จึงถูกใช้เพื่อควบคุมสัตว์ศัตรูพืช รวมทั่งสุนัขจิ้งจอก และกระต่าย่า พวกเขากลายเป็นที่รู้จักในนาม เวสต์ ไฮแลนด์ไวท์ เทอร์เรีย์ ในช่วงแรกๆของศตวรรษที่ 20
ช่วงชีวิตเฉลี่ย เวสตี้ โดยทั่วไปมีชีวิตได้ถึง 15 ปี อย่างไรก็ตามสุนัขที่แก่กว่านี้ก็อาจพบได้
ขนาดและน้ำหนักเฉลี่ย 28 ซม.8 - 9 กก.
อุปนิสัยประจำพันธุ์/ลักษณะประจำพันธุ์/อารมณ์ เวสตี้ มีนิสัยเช่น เทอร์เรียร์ ดั้งเดิม คือกระตือรือร้น ระวังระไว และเต็มไปด้วยความเชื้อมั่นตัวเอง เป็นสำคัญ พวกเขาชอบให้เอาใจ เป็นสายพันธุ์ที่แข็งแรง และมีความสุขกับการท่องเที่ยวในทุกสภาพอากาศ โดยจะติดตามเจ้าของไปทุกๆ ที่ พวกเขาเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์อย่างมาก แต่ชอบที่ดื้อ ดังนั้นควรทำการฝึกสอนแต่เนิ่นๆการเห่าเป็นพฤติกรรมธรรมชาติสำหรับสายพันธุ์ เทอร์เรียร์ และ เวสตี้ ก็ไม่มีข้อยกเว้น
ความเข้ากันได้กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ความเข้ากันได้กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ โดยปกติ เวสตี้ เป็นสุนัขที่ไม่ก้าวร้าวแต่การเป็นเทอร์เรีย์ ก็อาจจะมีอาการ "หวงถิ่น" อยู่เสมอ พวกเขาถูกเพาะพันธุ์เพื่อไล่ล่าเป็นฝูง และจะวิ่งอย่างมีความสุขกับสุนัขตัวอื่นๆ นั่นแสดงให้เห็นว่าไม่มีความก้าวร้าวในหมู่พวกเขา เวสตี้ ยังอย่ร่วมกันอย่างมีความสุขกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะเมื่อทำการฝึกสอนตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข
ความต้องการการเอาใจใส่ดูแล เป็นสุนัขที่ไม่ต้องดูแลเรื่องความสะอาดมากนัก หากเป็นสุนัขเพื่อการประกวดก็แค่ทำการเล็มและถอนขนด้วยมือก็ได้ เวสตี้ ต้องได้รับการตกแต่งขนเป็นประจำ (ทุกๆ 3-4 เดือน) เพื่อให้ดูดีอยู่เสมอ หากเจ้าของคอยหวีและแปรงขนประจำวันจะเป็นการดีมาก เพื่อกำจัดขน
ที่หมดอายุ และทำให้ขนสะอาดอยู่เสมอ
ข้อควรจำ ไม่เหมือนสายพันธุ์อื่นๆ เวสตี้ ไม่ผลัดขนในวิธีปรกติคือพวกเขาไม่ทิ้งขน เพราะฉะนั้นคน
เป็นโรคหืดหอบสามารถเลี้ยง เวสตี้ แทนสายพันธุ์อื่นๆ ได้เหตุเพราะ เวสตี้ ถูกเพาะพันธุ์เป็นสุนัขที่ชอบดิน เป็นนักขุดตัวยง ถ้าไม่สอนตั้งแต่ยังเล็ก สวนดอกไม้ที่คุณชื่นชอบอาจไม่เหลือ
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม เวสตี้ เป็นสัตว์เลี้ยงในฝันของหลายครอบครัวและเป็นที่รักของทุกคนในครอบครัว เวสตี้ ได้รวมเอาความรู้สึกสนุก การผจญภัย และมีความสุขกับการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะอยู่ประเทศใดก็ตาม เป็นสุนัขที่เข้ากันได้ดีกับเด็กๆ และเป็นเพื่อนในฝันสำหรับใครหลายๆ คน
ทิ้งท้าย ถ้าคุณต้องการรู้เกี่ยวกับ เวสต์ ไฮแลนด์ ไวท์ เทอร์เรียร์ มากขึ้น คุณสามารถติดต่อสมาคม
พัฒนาพันธุ์สุนัขแห่งประเทศไทย.

วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

สก๊อตติช เทอร์เรียร์

ความเป็นมา สก๊อตติช เทอร์เรียร์ เป็นหนึ่งในลูกหลานของ สกอตช์ เทอร์เรียร์ ที่เก่าแก่ ช่วงเดียวกับ แดนดี้ ดินมอนท์ เทอร์เรียร์ เครน เทอร์เรียร์ และเวสต์ ไฮแลนด์ ไวท์ เทอร์เรียร์ ยังไม่ทราบถิ่นกำเนิดที่แน่นอนของสายพันธุ์นี้ แต่ถ้าดูจากหลักฐานที่เคยมีมาโดยดูจาก รูปร่างและขนาดของสุนัขที่เล็ก มีขนลวด เป็นลักษณะสำคัญที่บอกถึงจุดประสงค์ในการใช้งานของสายพันธุ์ที่เป็นต้นกำเนิด นั่นคือพัฒนาเพื่อการไล่ล่าและกำจัดสัตว์ป่าประเภทต่างๆ เช่น สุนัขจิ้งจอก ตัวแแบดเจอร์ (สัตว์ขนาดเท่าสุนัขจิ้งจอก
เท้ามีเล็บอย่างหมี) พังพอน และหนู ที่คอยสร้างปัญหาให้กับชาวนา ชาวสกอตในยุคนั้นความสูญเสียที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อผู้คนเหล่านี้ที่การดำรงชีวิตต้องขึ้นอยู่กับผลิตผลที่ได้จากที่ทำกินของเขา ดังนั้นตัวสุนัขจึงถูกพัฒนาให้มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ มีความกล้าหาญ กระทัดรัด และเป็นฝูงสุนัขไล่ล่าที่ทรหด ลักษณะเหล่านี้ยังเป็นเครื่องหมายของสายพันธุ์นี้จนถึงปัจจุบัน
ช่วงชีวิตเฉลี่ย สก๊อตติช เทอร์เรียร์ มีอายุได้ถึง 12 ปี
ขนาดและน้ำหนักเฉลี่ย 25ซม.ถึง 28ซม.8กก.ถึง 11กก.
อุปนิสัยประจำพันธุ์/ลักษณะประจำพันธุ์/อารมณ์ สก๊อตติช เทอร์เรียร์ เป็นสุนัขตัวเล็กๆ เหมาะกับแทบ ทุกครอบครัว แม้เขาจะเป็นสุนัขที่ไม่
ค่อยแสดง ความรู้สึกเท่าไร แต่ความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์ ต่อทุกคนในครอบครัวก็มากมายไม่มีขีดจำกัด ถึงแม้จะเป็นสุนัขที่รักเจ้าของ แต่ก็อาจมีการกัดบ้าง โดยเฉพาะคนแปลกหน้าหรือสุนัขตัวอื่นที่เข้ามาตอแย เขาจะปกป้องอาณาเขตของตัวเอง โดยไม่เกรงกลัวสุนัขตัวอื่นๆ ไม่ว่าจะมีขนาดใหญ่กว่าเขาเท่าใดเป็นสุนัขที่มีความอดทนสูงกับธรรมชาติของเด็กๆ ที่มักจะเล่นโลดโผน เป็นสุนัขที่เมินเฉย จนถึงกระทั่งหาเรื่องกับคนแปลกหน้า สก๊อตติช เทอร์เรียร์ เหมาะเป็นสุนัขที่มีนายเดียว ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ สกอตตี้เป็นสุนัขเฝ้ายามที่ยอดเยี่ยม
ความเข้ากันได้กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ สก๊อตติช เทอร์เรียร์ สามารถอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆได้หากมีการเตรียมพร้อมและแนะนำสัตว์เลี้ยงให้รู้จักกันก่อน แต่ยังไม่เคยพบว่าบ้านไหนที่สามารถเลี้ยง สกอตตี้ ให้อยู่รวมกับแมว หนูตะเภา หรือสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กอื่นๆ ได้
ความต้องการการเอาใจใส่ดูแล สก๊อตติช เทอร์เรียร์ เป็นสายพันธุ์ที่กระตือรือร้นและต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำ เนื่องจากเป็นสุนัขที่มีขาสั้นทำให้การเดินเพียงแค่ไม่มากก็เป็นการออกกำลังกายที่เพียงพอ แล้วสกอตตี้ อาจไม่เหมาะที่จะเป็นเพื่อนวิ่งที่ดีเท่ากับเป็นเพื่อนเดินเล่น และที่สำคัญคือ จะ
ต้องอยู่ในสายจูงตลอดเวลา เพราะเขาเป็นสุนัขที่มีสัญชาตญาณในการไล่ล่า ดังนั่นถ้าเขาเห็นสัตว์เลี้ยงอื่นเช่นแมวอยู่ตรงหน้าอาจทำให้เขาถูกรถชนได้ขณะวิ่งไล่ตามการดูแล เรื่องขนของ สก๊อตติช เทอร์เรียร์ ขึ้นอยู่กับวิธีการเลี้ยงของคุณ สำหรับกรณีที่เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนไม่ต้องการนำไปประกวด ก็เพียงแต่ใช้แปรงสำหรับสางขนสุนัขก่อนแล้วตามด้วยการหวีสักสองครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอ
ข้อควรจำ ถึงแม้ว่า สก๊อตติช เทอร์เรียร์ จะไม่ต้องการรั้วที่กั้นสูงแต่เพื่อความปลอดภัยของเขาก็ต้องมั่นใจว่ารั้วนั่นปลอดภัยสำหรับเขา โดยเฉพาะหากมีสระว่ายน้ำอยู่ในบ้าน สุนัขพันธุ์นี้อาจกลายเป็นตัวทำลายข้าวของหากไม่ใส่ใจเขาหรือมีสิ่งเร้าให้เขาไม่เพียงพอ ต้องแน่ใจว่าสภาพแวดล้อมต่างๆ ปราศจากสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุนัข
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม ผู้ที่เหมาะกับ สก๊อตติช เทอร์เรียร์ จะต้องมีเวลาใส่ใจความต้องการของสุนัข และแบ่งปันเวลาส่วนตัวของคุณให้กับสุนัขได้ ซึ่งคุณจะได้รับทั้งความรักและความใส่ใจกลับคืนมามากกว่าด้วยซ้ำ เขาจะคอยเฝ้ามองทุกย่างก้าวของคุณ คอยคุ้มกัน ปกป้อง เป็นอย่างดี ถ้าได้รับความรักและการดูแลจากคุณอย่างดี ความรักของเขาต่อผู้เป็นเจ้าของจะไม่มีวันตาย
ทิ้งท้าย ถ้าคุณต้องการรู้เกี่ยวกับ สก๊อตติช เทอร์เรียร์ มากขึ้น คุณสามารถติดต่อสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขแห่งประเทศไทย.

วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

แจแปนนิส อากิตะ

ความเป็นมา ต้น กำเนิดของสุนัขพันธุ์ อากิตะ ยังคงไม่แน่ชัด แต่หากพิจารณาจากโครงสร้างของกระดูกและวิธีการคาร์บอน เดทติ้งแล้ว เชื่อว่าพวกเขามีอยู่ตั้งแต่ 500 ปีก่อนคริสตกาล ถึงแม้ว่าได้มีการบันทึกประวัติความเป็นมาเมื่อ 350 ปีก่อนนี้เอง สุนัขพันธุ์ อากิตะเป็นที่รู้จักในนามสุนัขโอดาเตะ ซึ่งตั้งชื่อตามบริเวณภูเขาในบริเวณโอดาเตะ บนเกาะฮอนชู เนื่องจากการประมงเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศญี่ปุ่น เท้าที่เป็นพังผืด และขนหนาที่กันน้ำได้ ของสุนัขพันธุ์ อากิตะทำให้พวกเขา กลายเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีของชาวประมง สุนัข อากิตะสามารถเป็นได้ทั้ง สุนัขเลี้ยงวัว และสุนัขนำทางให้คนตาบอด สุนัขลากรถเลื่อนตลอดไปจนถึงสุนัขตำรวจ พวกเขายังสามารถ เป็นพี่เลี้ยงเด็ก ดูแลทารกขณะที่คุณแม่ออกไปทำงานในนาข้าว สุนัขพันธุ์นี้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของโชคดีและสุขภาพที่ดีในประเทศญี่ปุ่น และมักจะมีการส่งรูปปั้นขนาดเล็ก ของสุนัขอากิตะ เพื่ออวยพรคนป่วยให้หายจากโรคโดยเร็ว ในปี 1982 ได้มีการนำเข้าสุนัขพันธุ์ อากิตะเดินทางไปยัง ประเทศออสเตรเลีย ตอนใต้
ช่วงชีวิตเฉลี่ย เมื่อพิจารณาสุนัข กรุณาจำไว้ว่าคุณจะอยู่กับพวกเขาตลอดชีวิตของเขา อากิตะมีช่วงอายุระหว่าง 8 ถึง 10 ปี
ขนาดและน้ำหนักเฉลี่ย 61 ซม. ถึง 71 ซม
อุปนิสัยประจำพันธุ์/ลักษณะประจำพันธุ์/อารมณ์ สุนัขอากิตะอุปมาอุป มัยถึงความลึกลับของประเทศญี่ปุ่น ความสง่างาม ความภูมิใจและกล้าหาญ มีสติ เยือกเย็น ไม่หวาดกลัวและหนักแน่น ทั้งยังไม่เสียการควบคุมเมื่อเจอกับสถานการณ์ที่แปลกใหม่หรือตึงเครียด แม้เป็นลูกสุนัข อากิตะแสดงความผึ่งผายต่างจากสุนัขอื่น ความสามารถในควบคุมตัวเองได้ทำให้การฝึกมารยาทการอยู่ในบ้านหรือการฝึกให้ อยู่ในสายสูงเป็นไปได้ง่าย พวกเขายังสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและชีวิตความเป็นอยู่หลาย ๆ แบบ ในขณะเดียวกันพวกเขารักสันโดดและรักอิสระ ความเป็นระเบียบ ผึ่งผายสง่างามทำให้เขาเป็นเพื่อนที่คุณต้องการ พวกเขายังเป็นเพื่อนเล่นแก่เด็กที่ มีความอดทนสูงสำหรับเด็กและ เป็นผู้ให้ความคุ้มครองแก่บ้านและครอบครัว ที่สำคัญด้วยมือของผู้เลี้ยงที่เหมาะสมจะเป็นความสุขในการเป็นเจ้าของ
ความเข้ากันได้กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ มีแนวโน้มในการแสดงความเป็นผู้นำต่อสุนัขตัวอื่น
ความต้องการการเอาใจใส่ดูแล ถ้าคุณหาสุนัขที่สามารถเลี้ยงในบ้าน พร้อมกับครอบครัวของคุณ ต้องรู้ไว้ก่อนว่าสุนัขพันธุ์นี้ จะผลัดขนปีละ สองครั้ง หรือบางทีสามครั้ง เขาต้องการการออกกำลังกายปริมาณมากและการฝึกการเชื่อฟังเป็นสิ่งจำเป็นที่ ควรต้องสอนตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก สำหรับสุนัขพันธุ์นี้ คุณต้องให้เขารู้ว่าคุณเป็นนาย เมื่อสุนัขพันธุ์ อากิตะผลัดขน ขนจะร่วงออกมา ในช่วงเวลานี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเลี้ยงไว้ในบ้าน ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะเตรียมพื้นที่นอกบ้านและเตียงแห้งที่อบอุ่นเพื่อลด ความเลอะเทอะ การอาบน้ำและแปรงขนจะช่วยให้การขนร่วงหยุดเร็วขึ้น
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม สุนัขอากิตะไม่ใช่ สุนัขสำหรับทุก ๆ คน อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่รักการท้าทายและเข้าใจว่าจะต้องทำอย่างไรกับสุนัข พันธุ์นี้เป็นเจ้าของสัตว์ที่ซื่อสัตย์และเป็นที่รัก
ทิ้งท้าย ตอนนี้ตุณก็รู้เรื่องราวเกี่ยวกับอากิตะขึ้นอีกนิด ถ้าคุณตัดสินใจว่าเขาคือสุนัขสำหรับคุณหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม คุณสามารถติดต่อสมาพัฒนาพันธ์สุนัขแห่งประเทศไทย

ฟอกซ์ เทอร์เรียร์

ความเป็นมา สุนัข พันธุ์นี้นิยมเลี้ยงกันในหมู่ชนชั้นกลาง ในช่วงฤดูล่าสัตว์ นักล่าสัตว์จะพาพวกเขามา โดยให้นั่งมาบนอานม้า พวกเขาจะทำหน้าที่ในการไล่ต้อนสุนัขจิ้งจอกให้ออกจากที่ซ่อน เพื่อให้เกมส์การไล่ล่าเริ่มขึ้นได้ สุนัขพันธุ์ ฟอกซ์ เทอร์เรียร์ไม่จำเป็นต้องฆ่าสุนัขจิ้งจอก มิฉะนั้นเกมส์การล่าก็จะหมดความหมายไปเสีย นอกจากนั้นสุนัขพันธุ์ นี้ยังใช้ในการไล่สัตว์ที่จะมาทำลายพืชไร่ ออกไป ซึ่งเป็นหน้าที่ที่พวกเขาสนุกสนานและถือเป็นเกมส์ไปในตัวด้วย
ช่วงชีวิตเฉลี่ย มีชีวิตถึง 14 ปี
อุปนิสัยประจำพันธุ์/ลักษณะประจำพันธุ์/อารมณ์ ฟอกซ์ เทอร์เรียร์เป็นสุนัขอารมณ์ดี ชอบทำตัวเรียกเสียงหัวเราะจากคุณ ไม่กลัวสิ่งต่างๆง่ายๆ และยังเป็นเพื่อนแสนดีของคุณอีกด้วย และยังสามารถเข้ากับสัตว์อื่นๆได้ง่ายอีกด้วย
ความเข้ากันได้กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ สิ่งที่สุนัขพันธุ์นี้ต้องการก็คือการมีเพื่อนเล่นมากมาย ได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และมีเวลาที่ได้พักผ่อน และเขาก็พร้อมที่จะจงรักภักดีต่อคุณเพียงผู้เดียว เวลาที่พาเขาไปเดินเล่น ควรให้เขาใส่สายจูงทุกครั้ง เพราะเวลาที่เขาเจอสิ่งที่เขาสนใจเขาจะไม่ละสายตาจากมันเลย เช่นเวลาเขาเห็นสิ่งน่าสนใจอยู่ถนนฝั่งตรงข้าม เขาก็จะวิ่งไล่ข้ามถนนไปหาสิ่งๆนั้น ซึ่งอาจทำให้แลายเป็นจุดจบที่น่าเสียดาย สุนัขพันธุ์ ฟอกซ์ เทอร์เรียร์ถูกแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่ขนแข็งและขนยาวนุ่ม ประเภทที่ขนแข็งนั้นผู้เลี้ยงต้องดูแลเอาใจใส่ความสวยงามของขนเป็นพิเศษหาก คุณต้องการให้เขาดูดี ซึ่งนอกจากควรที่จะพาเขาไปตัดเล็มขนอย่างน้อยปีละ 4 ครั้งและควรแปรงขนอย่างสม่ำเสมอด้วย
ข้อควรจำ เนื่องจากสุนัข พันธุ์นี้เป็นสุนัขที่ฉลาดและรักอิสระจึงจำเป็นต้องมีรั้วที่แน่นหนาพอสมควร เพื่อที่จะไม่ให้พวกเขาได้แอบหนีออกไปวิ่งเล่นหาความสนุกในที่ๆไม่ควรไป
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม ไม่เพียงแค่ฟอกซ์ เทอร์เรียร์เป็นพันธุ์ที่เหมาะที่จะเป็นเพื่อนรู้ใจ เขายังเป็นสุนัขเฝ้าบ้านของครอบครัว และเป็นเพื่อนผู้สูงอายุได้อีกด้วย เขาสามารถเป็นเพื่อนเล่นของเด็กๆได้เป็นอย่างดีเพราะเขาชอบที่จะเล่นบอล เล่นไล่จับ เล่นสเก็ตบอร์ด หรือแม้กระทั่งว่ายน้ำและโต้คลื่นตามชายหาดทะเล

โพเมอร์ราเนียน

ความเป็นมา เชื่อว่า โพเมอร์ราเนียน สืบเชื้อสายมาจากสุนัข วูล์ฟ สปิตซ์ ที่อพยพมาเมืองโพเมอราเนีย ทางทิศเหนือของ ประเทศรัสเซีย และไซบีเรีย สุนัขโพเมอร์ราเนียนมีเทือกเถาเหล่ากอเดียวกับสายพันธุ์ที่อยู่บริเวณขั้วโลกเหนืออื่นๆ เช่น ซามอยด์ และ คีชอนด์ ช่วงแรก โพเมอร์ราเนียนซึ่งมีน้ำหนักถึงราวๆ 14 กิโลกรัมใช้เพื่อคุ้มกันและลากเลื่อน ลูกสุนัขที่ตัวเล็กที่สุดในแต่ละครอก จะถูกเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน ต่อมา
ได้มีการนำเจ้าสุนัขพันธุ์สปิตซ์ตัวเล็กๆเหล่านี้มาผสมกัน เพื่อให้ได้สุนัขที่มีขนาดเล็กลง จนได้และมีการตั้งโพ เมอร์ราเนียนเป็นสายพันธุ์ใหม่ในศตวรรษ ที่ 18 เนื่องจากได้รับความสนใจจากคน อังกฤษ
ช่วงชีวิตเฉลี่ย โพเมอร์ราเนียน มีชีวิตระหว่าง 10-12 ปี
ขนาดและน้ำหนักเฉลี่ย 1.8-2 กก.
อุปนิสัยประจำพันธุ์/ลักษณะประจำพันธุ์/อารมณ์ โพเมอร์ราเนียนเป็นสมาชิกซึ่งสร้างความเพลิดเพลินให้กับครอบครัว เพราะความขี้อ้อน และชาญฉลาด พันธุ์นี้ยังมีความเป็น สปิตซ์ อยู่จึงมีความภักดี คอยปกป้องคนซึ่งเป็นครอบครัวของเขามาตลอด ความที่เป็นสุนัขขนาดเล็กธรรมชาติจึงชดเชยด้วยความเฉลียวฉลาดและมีพลังงานอย่างไม่น่าเชื่อ โพเมอร์ราเนียน กระหายที่จะเรียนรู้และฝึกให้เชื่อฟัง คำสั่งได้ดีเยี่ยม
ความเข้ากันได้กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ถึง โพเมอร์ราเนียน จะเป็นมิตร แต่กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ก็ควรแนะนำให้รู้จักกันอย่างระมัดระวัง
ความต้องการการเอาใจใส่ดูแล แม้โพเมอร์ราเนียน จะมีขนสองชั้น แต่การดูแลเอาใจใส่จะไม่ยุ่งยากมากเท่ากับพันธุ์อื่นๆที่มีขนลักษณะเดียวกัน แต่กระนั้นก็ยังต้องการ การดูแลเรื่องขนเป็นประจำเช่นกัน ควรดูแลเรื่องขน ตั้งแต่เขายังเป็นลูกสุนัขเพื่อให้เขาคุ้นเคย และเกิด ความเพลิดเพลิน ควรเลือกใช้แปรงขนแข็งที่มีคุณภาพที่ดี เพราะจะทำให้ขนเขาสวย การลูบขนย้อนจากหางไปหาหัวจะช่วยยกขนที่ทึบให้พองขึ้น พันธุ์นี้ไม่ต้องการการออกกำลังกายมากนัก และวิ่งเล่นในสวนหรือเดินระยะสั้นๆ ก็พอเพียงที่จะทำให้ ปอม ของคุณมีสุขภาพดีได้
ข้อควรจำ เมื่อคุณตัดสินใจเลี้ยง โพเมอร์ราเนียน เขาจะเป็นสมาชิกของครอบครัวคุณไปอีกหลายปี ดัง
นั้นควรเอาใจใส่ดูแลเขาเป็นอย่างด หากเป็นสุนัขที่คุณตัดสินใจเลือกแล้ว
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม เนื่องจากขนาดที่เล็กและมีระดับพลังงานสูง โพเมอร์ราเนียน จึงไม่เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก สุนัขพันธุ์นี้เหมาะกับคนที่อาศัยอยู่ในแฟลทหรือมีบ้านขนาดเล็กที่ต้องพาเขาออกกำลังกายเป็นประจำ เนื่องจากความเฉลียวฉลาดและความภักดี ปอม จึงเป็นเพื่อนเล่นที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้สูงอายุ
ทิ้งท้าย ถ้าคุณต้องการรู้เกี่ยวกับ โพเมอร์ราเนียน มากขึ้น คุณสามารถติดต่อสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขแห่งประเทศไทย.

บอสตัน เทอร์เรียร์

ความเป็นมา บอสตัน เทอร์เรียร์พัฒนาสายพันธุ์ในประเทศสหรัฐอเมริกา บรรพบุรุษของเขาคือสายพันธ์อิงลิช บูลด็อก และอิงลิช ไวท์ เทอร์เรียร์ อย่างไรก็ตามสายพันธ์เดิมเหล่านี้ต่างจากที่เรารู้จักทุกวันนี้อย่างมาก
ช่วงชีวิตเฉลี่ย บอสตัน เทอร์เรียร์มีอายุได้ถึง 16 ปี
ขนาดและน้ำหนักเฉลี่ย ความสูงจากพื้นถึงหัวไหล่ประมาณ 30 ซม.ถึง 45 ซม.น้ำหนักประมาณ 6.8 กก.ถึง 12 กก.
อุปนิสัยประจำพันธุ์/ลักษณะประจำพันธุ์/อารมณ์ สุนัขพันธุ์ บอสตัน เทอร์เรียร์มีนิสัยร่าเริง และชาญฉลาด มีเป็นที่รู้จัดถึงอุปนิสัยอันเป็นที่รักของทุกคน พวกเขาทุ่มเทให้กับเพื่อนและครอบครัวรวมทั้งเด็กและสัตว์อื่นๆ เป็นอย่างมาก ลักษณะท่าทาง ของสุนัขสามารถบอกความมุ่งมั่น ความแข็งแรงและกิจกรรม แม้จะเป็นสุนัขตัวเล็กแคระ แต่เขามีโครงสร้าง ได้สัดส่วน ดูสวย สง่างาม และไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะดวงตาโตใหญ่ที่บ่งบอกความรู้สึกเป็นลักษณะที่ ทำให้เรารักและเอ็นดู บอสตัน เทอร์เรียร์พิถีพิถัน รักความสะอาดมากและไม่เอะอะโวยวาย เหมาะสำหรับเลี้ยงภายในบ้าน นอกจากนั้นยังเข้ากับสัตว์เลี้ยงอื่นๆได้ดีมาก
ความต้องการการเอาใจใส่ดูแล ขณะที่สุนัขพันธุ์ บอสตัน เทอร์เรียร์มีแนวโน้มที่จะไม่มีขนที่พันกันเป็นปม และไม่มีกลิ่นสาบของสุนัข พวกเขาแทบไม่ต้องการการแปรงขน ก็สามารถมีขนที่เงางามได้
ข้อควรจำ ไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม บอสตัน เทอร์เรียร์เหมาะสำหรับเลี้ยงในพื้นที่จำกัด
ทิ้งท้าย ถ้าคุณต้องการรู้เกี่ยวกับบอสตัน เทอร์เรียร์มากขึ้น คุณสามารถติดต่อสมาพัฒนาพันธ์สุนัขแห่งประเทศไทย

วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

ปาปิลลอน

ความเป็นมา สาย พันธุ์นี้ดูเหมือนจะพบเห็นในภาพวาดในช่วงปี 1200 และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ สเปเนียลขนาดเล็ก (Toy Spaniel) โดยนิยมเลี้ยงกันในกลุ่มราชวงศ์และขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ในภาพเขียนหลายชิ้นที่มีภาพสุนัข สเปเนียลหูตก ซึ่งเรียกว่าฟาลีนและพวกที่ใบหูตรงและมีขนาดใหญ่กว่า เรียกกันว่าปาปิลลอน
ช่วงชีวิตเฉลี่ย ปาปิลลอนมีอายุถึง 16 ปี
ขนาดและน้ำหนักเฉลี่ย ความสูงประมาณ 20 ซม. ถึง 28 ซม.น้ำหนักประมาณ 2 กก. ถึง 3 กก.
อุปนิสัยประจำพันธุ์/ลักษณะประจำพันธุ์/อารมณ์ สุนัขพันธุ์นี้มี ความเป็นมิตรสูงและไม่แสดงความก้าวร้าว พวกเขาเป็นสุนัขซึ่งรักสะอาด และสามารถเลี้ยงไว้ในสวนหลังบ้านหรือบ้านซึ่งมีพื้นที่ที่จำกัดได้ พวกเขารักที่มีเพื่อน ฉลาดมากและ สามารถสอนให้ทำสิ่งต่างๆ หรือฝึกความเชื่อฟังได้ดี สุนัขพันธุ์ ปาปิลลอนชอบที่จะได้อยู่ร่วมกับสัตว์อื่น ๆ แต่ควรระวังเมื่อเขาอยู่กับสุนัขที่มีขนาดใหญ่กว่า
ความต้องการการเอาใจใส่ดูแล สุนัขพันธุ์นี้ต้อง การการอาบน้ำและแปรงขนอย่างสม่ำเสมอเนื่องจากเขาผลัดขน ควรดูแลส่วนหูเป็นพิเศษสำหรับพวกที่หูตก พวกเขาไม่ค่อยมีปัญหาสุขภาพ แต่บางครั้งบางคราวอาจมี อาการกระดูกสะบ้าเคลื่อนซึ่งผู้เลี้ยงต้องหมั่นตรวจดู พวกเขาชอบเดินและออกกำลังกายสม่ำเสมอ แม้ว่าแค่สวนหลังบ้านก็สามารถทำให้เขาพอใจได้แล้ว
ข้อควรจำ เนื่องจากมีขนาดที่เล็กจึงไม่เหมาะกับเด็กเล็ก
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม พวกเขาเป็นสุนัขที่ ติดคนดังนั้นเขาจะไม่มีความสุขถ้าขาดสัมผัสกับมนุษย์หรือเลี้ยงไว้นอกบ้าน
ทิ้งท้าย ถ้าคุณต้องการรู้ เกี่ยวกับปาปิลลอนมากขึ้น คุณสามารถติดต่อสมาพัฒนาพันธ์สุนัขแห่งประเทศไทย

เบอร์นีส มาน์เทน ด็อก

ความเป็นมา บรรพบุรุษ ของเบอร์นีส เมาน์เทน ด็อกถูกพามายังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยกองทหารโรมันที่เข้ามาบุกรุก มานานกว่า 2000 ปีแล้ว ถึงแม้ว่าเราสามารถพบเห็นพวกเขาได้อยู่ตามพื้นที่เพาะปลูกในประเทศสวิตเซอร์ แลนด์ ตอนกลางในปัจจุบันนี้ แต่ความจริงแล้วจำนวนพวกเขาลดลงไปอย่างมากไปในช่วงปลายศตวรรษที่ผ่านมา
ช่วงชีวิตเฉลี่ย สุนัขสวย ๆ เหล่านี้มีอายุได้ถึง 14 ปี
ขนาดและน้ำหนักเฉลี่ย 58 ซม. ถึง 70 ซม. 34 กก. ถึง 49 กก.
อุปนิสัยประจำพันธุ์/ลักษณะประจำพันธุ์/อารมณ์ สุนัขที่มีหน้าที่หลายอย่างพันธุ์นี้สามารถทำงานใช้แรงงานหนัก ๆ ได้ดีพอกับการเป็นสุนัขใจดี น่ารัก ประจำครอบครัวเขาจะโตเต็มที่ช้าแต่เป็นสุนัขที่มีความมั่นใจในตัวเองเป็น มิตร เข้ากับสัตว์อื่น ๆ ได้ง่ายทั้งยังกล้าหาญแต่ถ้าเกิดอาการก้าวร้าว คุณควรจะห้ามเขาตั้งแต่เห็นพฤติกรรมเริ่มแรก
ความเข้ากันได้กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ หากต้องการมีสุนัขพันธุ์ เบอร์นีส เมาน์เทน ด็อก ที่มีความสุข คุณจำเป็นต้องให้เขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เขาจะสามารถเข้ากันได้ดีกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ ถ้าเลี้ยงด้วยกันตั้งแต่เด็ก
ความต้องการการเอาใจใส่ดูแล สุนัขที่เต็มไปด้วย ความอดทนและพละกำลัง ทั้งยังแข็งแรงและตื่นตัวตลอดเวลาพันธุ์นี้มีขนสีดำเป็นแถบ ๆ และมีแถบสีน้ำตาลแดงที่ขา แก้มและจุดรอบดวงตาและบริเวณบนข้างใดข้างหนึ่งของหน้าอก เขามีขนยาวปานกลางและหยิกเป็นลอนเล็ก ๆ ซึ่งต้องการการแปรงขนทุกวัน
ข้อควรจำ เนื่องจากสุนัขพันธุ์นี้มีรูปร่างแข็งแกร่งและมีสัญชาตญาณเลี้ยงสัตว์ เขาอาจมีนิสัยไล่ล่าอย่างน่ากลัวหากไม่ได้รับการห้ามกล่าวตักเตือน เนื่องจากเขาสามารถถูกยั่วยวนด้วยวัตถุเคลื่อนที่ทุกอย่าง คุณควรจะฝึกเขาให้เข้าใจว่าไม่สามารถไล่ต้อนสัตว์อื่น ๆ ได้
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม เนื่องจากเขาสามารถ โตอย่างรวดเร็วและคล่องแคล่วอย่างมาก สุนัขพันุ์นี้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานมากเกินไป พวกเขาจึงไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็กและคนชรา สัญชาตญาณการไล่ล่าอาจก่อปัญหาแก่เด็กเล็กได้
ทิ้งท้าย เมื่อคุณตัดสินใจว่า สุนัขพันธุ์นี้เหมาะสำหรับคุณ และต้องการข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้น คุณสามารถติดต่อสมาพัฒนาพันธ์สุนัขแห่งประเทศไทย

บ๊อกเซอร์

ความเป็นมา บ๊อกเซอร์ มีต้นกำเนิดจากสาย พันธุ์บูลเลนไบส์เซอร์ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นบูลด็อก ชนิดหนึ่งเพื่อใช้ล่าหมีและวัว เมื่อเกมกีฬานี้ถูกประกาศห้ามบ๊อกเซอร์ จึงถูกพัฒนาให้กลาย เป็นสุนัขคุ้มกันและการป้องกันภัย. บริทิช บูลด็อก ก่อให้เกิดการพัฒนาบ๊อกเซอร์ในปัจจุบัน ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่ บริทิช บูลด็อก ในปัจจุบันที่ตัวเตี้ยลงจะมีวิวัฒนาการด้วยซ้ำ
ช่วงชีวิตเฉลี่ย บ๊อกเซอร์มีชีวิตอยู่ได้นานถึง 10 ปี
ขนาดและน้ำหนักเฉลี่ย 53-61 ซม.28-32 กก.
อุปนิสัยประจำพันธุ์/ลักษณะประจำพันธุ์/อารมณ์ มีความอดทนสูงและคอย ปกป้องเด็กๆ ได้ บ๊อกเซอร์จะหาโอกาสทุกครั้งเพื่อเข้าร่วมในกิจกรรม ต่างๆ แม้อายุจะมากขึ้นเขาก็ไม่ละเลยที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมของครอบครัว พูดง่ายๆ ว่า เป็นสุนัขที่มีนิสัยรักสนุก, ร่าเริงไปตามเรื่องตามราวของตัวเขาเองจนความน่ารักของเขาเข้ามาอยู่ใน หัวใจทุกคนถ้าได้รู้จักสุนัขพันธุ์นี้โดยทั่วไปบ๊อกเซอร์อารมณ์จะคงที่ รัก
สงบ ถึงแม้จะถูกรบกวนก็ไม่แสดงอารมณ์เสียง่ายๆ จะไม่ขี้อาย กร้าวร้าว หรือตื้นเต้นจนเกินเหตุ ค่อนข้างเชื่อฟังคำสั่งและสอนโดยง่ายบ๊อกเซอร์เป็นสุนัขที่เหมาะจะเป็นสัตว์ เลี้ยงประจำครอบครัว สิ่งที่เห็นได้ชัดคือความรัก ความซื่อสัตย์ และ ความจงรักภักดีต่อผู้เป็นเจ้านายและคนในครอบครัว พวกเขาจะปกป้องเจ้านายโดยปราศจากความกลัวใดๆ
ความเข้ากันได้กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เข้ากับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นได้ดีมาก
ความต้องการการเอาใจใส่ดูแล ความต้องการของ บ๊อกเซอร์น้อยมาก ตราบเท่าที่คุณตระเตรียมสถานที่อบอุ่นให้เขาหลับนอน(ควร เป็นภายในบ้าน)มีอาหารที่เหมาะสม ความรัก ความใส่ใจ และออกกำลังกายอย่างส่ำ เสมอ คุณจะได้รางวัลคืนเป็นความจงรักภักดีและมิตรภาพตอบแทนไปตลอดชีวิตควร
เลือก ซื้อลูกสุนัขบ๊อกเซอร์จากนักผสมพันธุ์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น ซึ่งใส่ใจในการเลือกเฟ้นตัวพ่อแม่ เพื่อให้ได้ลูกสุนัขสุขภาพดี
ข้อควรจำ คนผสมพันธุ์ที่มี ความรับผิดชอบ จะหลีกเลี่ยงพสมให้ได้ลูกสุนัขบ๊อกเซอร์สีขาว เพื่อไม่ให้
เกิด ลูกสุนัขหูหนวกซึ่งถือเป็นข้อบกพร่องร้ายแรง ในออสเตรเลียบ๊อกเซอร์สีขาวยังมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง เนื่องจากสภาวะอากาศได้ง่ายอีกด้วย
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม สำหรับทุกคนที่พร้อมจะดูแลสุนัขมีความตื่นตัวและพร้อมที่จะเล่นตลอดเวลา.
ทิ้งท้าย ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์บ๊อกเซอร์ โปรดติดต่อ สมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขแห่งประเทศไทย

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

โดเบอร์แมนน์

ความเป็นมา โดเบอร์แมนน์ มีถิ่นกำเนิดในเยอรมันในศตวรรษที่ 19 นายฮอร์ ลูอิสโดเบอร์แมนน์ อาศัยย่ในเมืองอพอลโด(เยอรมันตะวันออก)ในอาณาจักร ของเธอริงเจนเขารับราชการเป็นผู้เก็บภาษีที่มีสุนัขคอยดินตามปกป้อง เขา นายฮอร์โดเบอร์แมนน์ต้องการสุนัขเฝ้ายามที่ปราศจากความกลัวจึง เริ่มต้นคัดเลือกสุนัขเพื่อทำการเพาะพันธุ์ให้ได้สุนัขตามที่เขา ต้องการ ไม่มีใครรู้แน่ว่าเขาผสมโดยใช้สายันธุ์ใดบ้างแต่ได้ยินว่าอาจ เป็นเกรตเดน เยรมันเชพเพิร์ดสายดั้งเดิมไม่ใช่เยรมัน เชพเพิร์ดที่เรา รู้จักในปัจจุบัน) ไวมาราเนอร์แมนเชสเตอร์เทอร์เรีย์เกรยฮาวนด์และ พันธุ์อื่นๆอีกมากมายลอดชีวิต60 ปีกับการผสมข้ามสายพันธุ์นายเฮอร์ โดเบอร์แมนน์ประสบความสำเร็จอย่างมากในการคัดเลือกสายพันธุ์เพื่อ ใช้เป็นสุนัขเฝ้ายามที่ต้องการหน่วยเมริกันมารีนส์รู้จักโดเบอร์แมนน์ กันในนาม"สุนัขปีศาจ"และใช้มันเป็นสัญลักษณ์ของหน่วยในช่วงสงคราม โลกครั้งที่ 2 ในแปซิฟิค โดยถูกนำขึ้นฝั่งพร้อมกับทหารเรือเพื่อไล่ ล่าศัตรู
ช่วงชีวิตเฉลี่ย โดเบอร์แมนน์ สามารถมีชีวิตได้นานถึง 14 ปี
ขนาดและน้ำหนักเฉลี่ย 65-69ซม.
อุปนิสัยประจำพันธุ์/ลักษณะประจำพันธุ์/อารมณ์ โดยทั่วไปแล้วธรรมชาติของ โดเบอร์แมนน์ เป็นสุนัขที่ไว้ใจได้และเป็นเพื่อนที่ภักดีกับเจ้าของ นิสัยุภาพ แต่แข็งแรงและอึดเท่าที่คุณใส่ใจฝึกฝนเขาเป็นเพื่อนเล่นที่ดีกับเด็กใน"ครอบ ครัว" เท่านั้น เขาจะชอบร่วมกิจกรรมต่างๆของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นที่โต๊ะ
อาหาร หรือจะขึ้นไปนอนบนเตียงด้วยความจริงแล้วเขาอาจลืมไปนึกว่าตัวเองก็เป็นคน ด้วยแม้จะรักและเชื่อฟังเจ้าของ โดเบอร์แมนน์ ก็สามารถวางปึ่งทำเหมือนไม่ สนใจเราได้เช่นกันอย่างไรก็ตามในภาวะปรกติแล้วไม่ควรแสดงอาการฉุนเฉียวหรือ ก้าวร้าวแต่ถ้ามีอาการเหล่านี้ก็ไม่น่าไว้ใจและอาจแสดงนิสัยที่ไม่ดีเหล่า นี้เวลาเครียดได้
ความต้องการการเอาใจใส่ดูแล โดเบอร์แมนน์ เป็นสุนัขขนาดใหญ่ ร่าเริงฉลาดคุณต้องตั้งใจพาเขาไปออกกำลังกายและใส่ใจ ความต้องการของเขาคนทีคิดจะเลี้ยงโดเบอร์แมนน์ควรมีเวลาพาเขาไปออกกำลังกายและ ฝึกฝนเขาเป็นประจำทุกวัน ถ้าอยากให้เขาอยู่กับเราอย่างมีความสุข เราจำเป็นต้อง
สอนเขาให้เชื่อฟังคำสั่งและอยู่ในการ ควบคุมได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเพียงขั้นพื้นฐาน หรือขั้น สูงสุดจนได้รับใบประกาศ ทั้งคุณและสุนัขของคุณมี ความสุข และได้ประโยชน์จากกิจกรรมนี้ โดเบอร์แมนน์ ต้องเลี้ยงในบ้านที่มีพื้นที่เพียงพอ
ข้อควรจำ เพราะว่า โดเบอร์แมนน์ ถูกเพาะพันธุ์เป็นสุนัขใช้งาน สภาพจิตใจและความพร้อมในการเรียน รู้เป็นสิ่งสำคัญพอๆ กับ ความสามารถในการปฎิบัติตามคำสั่ง การประเมินความสามารถ ในการทำงาน (Working Aptitude Evaluation) มีจุดมุ่งหมายเพื่อทดสอบสุนัขว่าเหมาะ กับลักษณะงานหรือไม่ เหมาะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน หรือเป็นผู้คุ้มกันเรา
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม ทุกคนที่มีเวลาพาสุนัขไปฝึกฝน พาเข้าสังคมและพาไปออกกำลังกายได้
ทิ้งท้าย ถ้าคุณต้องการรู้จัก โดเบอร์แมนน์ มากขึ้น คุณสามารถติดต่อชมรมผู้เลี้ยง โดเบอร์แมนน์ หรือสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขแห่งประเทศไทย

ชาร์ไป่

ความเป็นมา สุนัขพันธุ์ ชาร์ไป่ มีถิ่นกำเนิด ในประเทศจีน ย้อนหลังไปเมื่อ 2000 ปีก่อน ถึงแม้ว่าสถานที่ที่แน่นอนของถิ่นกำเนิดจะยังไม่ทราบแน่ชัด ก็ตาม แต่เนื่องจากพบรูปปั้นสุนัขหน้าตาใกล้เคียงจึงเชื่อว่า น่าจะมาจากทางจีนตอนใต้ทิเบตหรือ ดาห์-เลล ส่วนคำว่า ชาร์ไป่ หมายถึง ผิวหนังเหมือนทราย ซึ่งมาจากลักษณะของสายพันธุ์นี้ที่มีขนหยาบ ชาร์ไป่ โดยทั่วไปถือว่าเป็นสุนัขเอนกประสงค์ (Utility Dogs) เพื่อ ใช้เฝ้าฝูงสัตว์และเป็นสุนัขอารักขา เป็นที่รู้กันว่าสุนัข ชาร์ไป่ เป็นสุนัขเฝ้าสุสาน, เนื่องจากพบรูปปั้นที่มี ลักษณะคล้าย กับเขาในสุสานโบราณอายุกว่า 2000 ปี เมื่อจีนกลายเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ ได้มีการเรียกเก็บภาษีในการเลี้ยงสุนัข ทำให้การเลี้ยงสุนัขกลาย เป็นสิ่งหรูหราและเป็นไปได้สำหรับคนรวย เกินเอื้อมสำหรับชาวนาทั่วๆ ไปต่อมาในปี 1947 ได้มีการเพิ่มภาษีและมีการประกาศห้ามเพาะพันธุ์ สุนัข ทำให้จำนวน ชาร์ไป่ ลดลงจนหน้าเป็นห่วง จนในปี 1978 ได้มีการบันทึกในหนังสือ กินเนส บุ๊ค ว่า ชาร์ไป่ เป็นสุนัขหายากที่สุด ของโลก
ช่วงชีวิตเฉลี่ย ช่วงชีวิตเฉลี่ยสำหรับ ชาร์ไป่ 10-12 ปี
ขนาดและน้ำหนักเฉลี่ย 46-51 ซม.20 กก.
อุปนิสัยประจำพันธุ์/ลักษณะประจำพันธุ์/อารมณ์ ชาร์ไป่ เป็นสุนัขที่ฉลาดต้องการการฝึกฝนเพียงเล็กน้อย ถึงแม้บางครั้งจะชอบปลีกตัว หัวสูง และไม่ชอบสุงสิงกับคนแปลกหน้า แต่พวกเขาก็ซื่อสัตย์ และจงรักภักดี กับครอบครัวของเขาอย่างที่สุด เป็นสุนัขที่รักอิสระ สง่าผ่าเผย ระวังระไว ไว้ตัว ในขณะเดียวกันก็เป็นสุนัขที่ รักสงบและไว้ใจได้
ความเข้ากันได้กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เริ่มแรก ชาร์ไป่ จัดอยู่ในกลุ่มสุนัขใช้งาน (Working Dogs) แต่ในปัจจุบันถูกจัดอยู่ในกลุ่ม
สุนัข ที่ไม่ได้ใช้เพื่อการกีฬา (Non-sporting Dogs) การเข้าสังคมกับสัตว์อื่นๆ เป็นที่สำคัญ พวกเขาอาจกร้าวร้าวกับสุนัขตัวอื่นที่เป็นเพศเดียวกัน นิสัยและอารมณ์ขึ้นอยู่กับแต่ละตัว ชาร์ไป่ บางตัวอาจอยู่ร่วมกับสัตว์อื่นๆ ได้อย่างมีความสุข แต่บางตัวอาจจะแสดงสัญชาตญาณการไล่ล่าอยู่ ปกติจะเข้ากันได้ดีกับเด็กและสัตว์เลี้ยงอื่นๆ หากถูกเลี้ยงมาด้วยกัน
ความต้องการการเอาใจใส่ดูแล เป็นสุนัขที่ดูแล ง่าย หลายคนมักเข้าใจผิดว่า สุนัขพันธุ์นี้ต้องการการบำรุงรักษาเป็นพิเศษ
เพราะ ความที่มีรอยย่นอยู่เต็มตัว เพียงการดูแลเหมือนสุนัขพันธุ์อื่นๆ เช่น การฉีดวัคซีน การถ่ายพยาธิ การดูแลเรื่องเห็บ หมัด การอาบน้ำ และความเป็นอยู่ทั่วๆ ไป เพื่อทำให้แน่ใจว่าสุนัขมีสุขภาพที่ดีก็เพียง พอแล้ว พวกเขาไม่ใช่สุนัขที่มีกลิ่นตัวและขนก็สั้นจนไม่ต้องแปรงขนให้ เขาเลย บริเวณที่ต้องใส่ใจคือที่หู อาจมีการสะสมสิ่งสกปรกทำให้อากาศในหูไม่ถ่าย เทการดูแลเรื่องอาหารนั่นง่ายมากเพียงคุณให้อาหารสุนัขที่ครบถ้วนคุณค่าสาร อาหารและสมดุลก็เพียงพอ แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ผสมสีสังเคราะห์ (ไม่ใช่สีผสมอาหาร) วัตถุกันเสีย และเนื้อแดง ยังมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงอีกเช่น ผลิตภัณฑ์จากข้าวโพด และถั่วเหลือง เพราะอาจทำให้เกิดภาวะภูมิแพ้ในสุนัขพันธุ์ได้
ข้อควรจำ การที่เป็นสุนัขที่แสนฉลาดทำให้ ชาร์ไป่ เป็นสุนัขในฝันหลายคนอยากที่เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน
ไม่ว่าคุณจะเลี้ยงเขาไว้เพื่อการประกวดตามมาตรฐานสายพันธุ์ เพื่อลงแข่งขันควบคุมสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่ง หรือเพียงแค่ต้องการสุนัขที่ซื่อสัตย์ไว้เป็นเพื่อนสักตัว ชาร์ไป่ ก็สามารถทำให้คุณพึงพอใจได้อย่างแน่นอนพวกเขามีความสุขได้ไม่ว่าจะ เลี้ยงเขาในเมืองที่มีพื้นเพียงพอหรือจะอยู่ชานเมืองก็ตาม และมีความสุขทั้งภายในบ้านและนอกบ้านเท่าๆ กัน เพราะความเป็นสุนัขที่ เชื่อฟังคำสั่งและชอบประจบเจ้าของ ทำให้ง่ายต่อการฝึกฝน ชาร์ไป่ ถูกเรียกว่า สุนัขจีนยอดนักสู้ ซึ่งไม่น่าจะถูกนัก เพราะพวกเขาไม่ใช่สุนัขที่ชอบความรุนแรง หรือคอยหาเรื่องทะเลาะกับสัตว์ อื่นๆ แต่จะสู้ยิบตาหากถูกรังแกก่อน
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม ชาร์ไป่ เป็นสุนัขนายเดียว แม้เขาจะรักทุกคนในครอบครัว แต่จะมีคนเดียวที่เขาให้ความสำคัญ เป็นพิเศษ ผู้เลี้ยงที่เหมาะกับเขาจะรู้ได้ถึงความซื่อสัตย์ที่แสดงออกมา และเข้าใจความต้องการของเขาเวลา ที่เขาต้องการอยู่ตัวเดียวเมื่อต้องเจอสถานการณ์ใหม่ๆ พวกเขาต้องการการ ออกกำลังกาย การเข้าสังคม ความรักและความเอาใจใส่เพื่อให้เขามีความสุขอย่าง เต็มที่
ทิ้งท้าย ถ้าคุณต้องการรู้เกี่ยวกับ ชาร์ไป่ มากขึ้น คุณสามารถติดต่อสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขแห่งประเทศไทย.

คอลลี พันธุ์ขนเรียบ

ความเป็นมา สุนัข พันธุ์ คอลลี พันธุ์ขนเรียบมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศสกอตแลนด์ซึ่งพวกเขาได้กลายมาเป็น สุนัขเลี้ยงแกะ ที่ยอดเยี่ยม สายพันธุ์ คอลลี พันธุ์ขนเรียบได้รับการพัฒนามาจากการผสมข้ามพันธุ์ ระหว่างคอลลี่สีขาว-ดำ สายพันธุ์ดั้งเดิมและพันธุ์บริติช เกรย์ฮาวนด์ เพื่อให้ได้สุนัขซึ่งมีฝีเท้าเร็วเป็นเยี่ยม และสามารถใช้ในการล่าสัตว์ ได้ด้วย
ช่วงชีวิตเฉลี่ย คล้ายกับสุนัขส่วน ใหญ่มีอายุเฉลี่ยถึง 14 ปี
อุปนิสัยประจำพันธุ์/ลักษณะประจำพันธุ์/อารมณ์ สุนัขพันธุ์ คอลลี พันธุ์ขนเรียบ เป็นสุนัขซึ่งมีพื้นฐานอารมณ์ดีเยี่ยม พวกเขาฉลาดหลักแหลม ซื่อสัตย์และจงรักภักดี ต่อผู้เป็นเจ้าของ พวกเขายินดีกับการมีสุนัขอื่นเป็นเพื่อนโดยเฉพาะเพศตรงข้าม ด้วยสัญชาตญาณของสุนัขต้อนสัตว์เลี้ยง หากมีสัตว์ขนาดเล็กที่หลงวิ่งหนี ภายในถิ่นของเขา พวกเขาจะชอบวิ่ง ไล่ ต้อนให้เข้าไปอยู่ในที่ใดที่หนึ่ง
ความต้องการการเอาใจใส่ดูแล คอลลี พันธุ์ขนเรียบมีขนสั้นแน่นและคล่องแคล่วว่องไว ในขณะที่สัตว์ส่วนใหญ่กำลังคิด คุณจะพบสุนัขพันธุ์ คอลลี พันธุ์ขนเรียบ ลงมือทำทำสิ่งนั้นไปแล้ว และกำลังวิ่งหอบกลับมาอวดคุณ คอลลี พันธุ์ขนเรียบมีชีวิตชีวาและมีร่างกายแข็งแรงกำยำ ดังนั้นจึงต้องให้เขาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่นเดินหรือ วิ่งเล่นในสวน สุนัขพันธุ์นี้สามารถฝึกง่ายและพอใจกับการเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
ข้อควรจำ เนื่องจากสุนัข พันธุ์นี้ “ติดคน” จึงไม่ควรปล่อยถูกปล่อยให้อยู่ในสวนหลังบ้านดูแลตัวเองตามลำพัง เขาต้องการเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน ของครอบครัวและกิจกรรมทุก ๆ กิจกรรมไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม ด้วยความฉลาดหลัก แหลม มนุษยสัมพันธ์ดีและมีความต้องการที่จะเอาใจผู้อื่น พวกเขาจึงเป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยมแก่ทุกคนทุกสถานการณ์
ทิ้งท้าย เมื่อคุณตัดสินใจรับคอลลี พันธุ์ขนเรียบมาเป็นสัตว์เลี้ยง และต้องการข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้น คุณสามารถติดต่อสมาพัฒนาพันธ์สุนัขแห่งประเทศไทย

เกรตเดน

ความเป็นมา ยังมี การโต้เถียงถึงที่มาของเกรตเดน อยู่ แต่ส่วนมากยกเครดิตให้กับประเทศ เยอรมัน ที่เป็นผู้รับผิดชอบ
สายพันธุ์เกรตเดนในปัจจุบันตามประวัติ ศาสตร์ยืนยันว่าพบสุนัขชนิดนี้ในรัสเซียโปแลนด์ และภาคกลางของเยอรมัน ในยุโรปยุคกลาง ยังมีฝูงหมูป่าขนาดใหญ่กระจายอยู่ เต็มป่าไปหมด และเป็นที่รู้ว่าเชื้อพระ.วงศ์ในช่วงนั้น ได้จัดตั้งฝูงสุนัขล่า.สัตว์ที่เรียกกันว่า บอร์ ฮาวด์ เนื่องจากมีความ สามารถในการไล่ล่าหมูป่า และสุนัขพวกนี้เหมือนกับพันธุ์ เกรตเดนมาก ผ่านมาหลายรุ่นธรรมชาติของเกรตเดนได้เปลี่ยนไปตามลักษณะสายพันธุ์ ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันจนหลายคนเรียกว่า ยักษ์ใหญ่ผู้สุภาพอ่อนโยน.
ช่วงชีวิตเฉลี่ย ช่วงชีวิตเฉลี่ยสำหรับ เกรตเดน คือ 9-10 ปี

ขนาดและน้ำหนักเฉลี่ย
71-76ซม.41-46กก.
อุปนิสัยประจำพันธุ์/ลักษณะประจำพันธุ์/อารมณ์ เกรตเดน เป็นสุนัขที่สง่างามและล่ำสัน ดูห้าวหาญ และเก่งกล้าสามารถ พร้อมเสมอที่จะไปทุกที่ และทำทุกสิ่ง ความสง่างามของเค้าโครง และรูปร่างที่อ่อนช้อยเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด หัวและคอจะเชิ่ดสูงแสดงถึง ความตื่นตัวและความสง่าผ่าเผยอันทรงพลังในขณะเคลื่อนย้ายร่างกาย
ความเข้ากันได้กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ยอดเยี่ยม แต่ต้องระลึกว่ามันคือความรับผิดชอบของผู้เป็นเจ้าของที่จะต้องควบคุมสุนัข ให้อยู่ในคำสั่ง
ความต้องการการเอาใจใส่ดูแล เกรตเดน เป็นสุนัขขนสั้น เรียบเป็นมันเงางาม การดูแลเรื่องขนเป็นประจำ 5-10 นาที ก็เพียงพอ เพราะเป็นสุนัขที่มีขนชั้นเดียว ดังนั้นในขณะที่ขนตายกำลังร่วงขนใหม่ก็จะขึ้นมาทดแทนทันที
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม คนมักเข้าใจผิดกัน ว่าถ้าคุณอยากเลี้ยงสุนัข เกรตเดน คุณต้องมีพื้นที่มากๆในการเลี้ยงดูและ ให้เขาได้ออก กำลังกาย แต่จริงๆแล้ว เกรตเดนสามารถอยู่ใน บ้านเล็กๆอย่างมีความ
สุขดี แต่ต้องได้รับการพาไป ออกกำลังกายโดยเดินหรือวิ่งถ้าเป็นไปได้ เนื่องลูกสุนัข เกรตเดน เติบโตอย่างรวดเร็วมาก ดังนั้นไม่ควรให้เขาออกกำลังกายมากเกินไปก่อนอายุ 12 เดือนต้องแน่ใจว่าบ้านคุณมีรั้วรอบขอบชิด และเมื่อคุณไม่อยู่บ้านต้องผูกเขาไว้ด้วยเพราะ เกรตเดน สามารถกระโดดข้ามรั้วได้สบายๆ แม้เขาจะไม่ทำบ่อยนักสิ่งแรกที่เจ้าของมือใหม่ควรทำคือต้องพาเจ้า เกรตเดน ไปให้สัตวแพทย์ตรวจร่างกาย ทำวัคซีน ให้ครบ ปกติ เกรตเดน จะปรับตัวให้มีความสุขกับ สิ่งต่างๆ ได้ดี แต่เราก็ต้องคอยให้ความรัก ความเอ็นดูเขาด้วย
ทิ้งท้าย ถ้าคุณต้องการรู้จัก เกรตเดน มากขึ้น คุณสามารถติดต่อ สมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขแห่ง
ประเทศไทย